ทุกๆ วัน ผู้คน 1 ใน 1,000 คนในออสเตรเลียพบผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และจำนวนดังกล่าวกำลังเพิ่มขึ้นทุกขณะ แล้วถ้าคุณติดเชื้อ จะต้องทำอย่างไร?
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามทั้งหมดของคุณ:
ฉันมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ฉันควรจะทำอย่างไร?
หากคุณมีอาการเช่น น้ำมูกไหล ไอ หรือเจ็บคอ คุณควรสันนิษฐานว่าคุณติดเชื้อโควิด-19 และแยกตัวจากผู้อื่น หากคุณรู้สึกสบายดีพอ คุณก็สามารถพยายามไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) ที่คลินิกในพื้นที่ของคุณ
แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องผู้คนที่ไปรอรับการตรวจเชื้อเป็นแถวยาวเหยียดทั่วประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ที่มีอาการจะได้รับการตรวจเชื้อพีซีอาร์ให้ก่อนใครและทางการเรียกร้องให้คนเหล่านี้ (คนที่มีอาการ) ยังคงไปรับการตรวจเชื้อต่อไป
นี่คือสิ่งที่มุขมตรี โดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์กล่าวเมื่อวันพุธว่า: “หากคุณไม่ได้ถูกกำหนดให้ต้องไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ โปรดอย่าไปเข้าแถวรอตรวจ เราต้องการคนที่รู้สึกไม่สบายหรือคนที่ถูกจัดว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contacts) - นั่นคือสมาชิกในครัวเรือน (ในบ้าน) ของผู้ติดเชื้อโควิด หรือผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ให้ไปตรวจเชื้อ เพื่อให้คนเหล่านี้ได้รับการตรวจเชื้อ และเพื่อให้ระยะเวลารอคอยกว่าจะรู้ผลการตรวจนั้นสั้นลง”
หากคุณไม่ได้ถูกกำหนดให้ต้องไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ โปรดอย่าไปเข้าแถวรอตรวจ เราต้องการคนที่รู้สึกไม่สบายหรือคนที่ถูกจัดว่าเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ (close contacts) - นั่นคือสมาชิกในครัวเรือน (ในบ้าน) ของผู้ติดเชื้อโควิด หรือผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ให้ไปตรวจเชื้อ
อีกทางเลือกหนึ่งคือทำการตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็ว โดยเป็นการตรวจแอนติเจน (rapid antigen test หรือ RAT) หากคุณสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาใกล้บ้าน (หรือให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวนำไปส่งให้ที่หน้าประตูบ้านของคุณ) การตรวจเชื้อแบบนี้ทำได้ง่าย และคำอธิบายวิธีใช้ภายในกล่องซึ่งจะช่วยชี้แนะคุณตลอดกระบวนการ
ชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็ว หรือ RAT เป็นสินค้าที่หายากในขณะนี้ แต่คาดว่าปัญหาจำนวนสินค้าที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคคลี่คลายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากมีการสั่งซื้อชุดตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็วรวมกว่า 200 ล้านชุดโดยรัฐบาลของรัฐต่างๆนิวเซาท์เวลส์จะเริ่มใช้หรือเริ่มแจกชุดตรวจเชื้อทราบผลรวดเร็ว หรือ RAT ในสัปดาห์หน้าที่ศูนย์ตรวจเชื้อทั้งแบบวอล์กอิน (ประชาชนยืนเข้าแถวรอตรวจ) และไดรฟ์ทรู (ประชาชนขับรถเข้าไปรอตรวจฉ เพื่อให้ประชาชนมากขึ้นได้รับการตรวจและทราบผลการตรวจอย่างทันท่วงที
People queue in their cars outside a drive-through COVID-19 PCR testing clinic in the Sydney suburb of Mascot on 3 January. Source: AAP/Bianca De Marchi
แต่ถ้าคุณไม่สามารถรับการตรวจเชื้อได้ แพทย์บอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้คืออยู่บ้าน
“นี่เป็นสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง … คุณต้องสันนิษฐานว่าคุณติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) และแยกตัวจากผู้อื่นเหมือนกับว่าคุณติดเชื้อ” แพทย์หญิง คาเรน ไพรซ์ ประธานของราชวิทยาลัยแพทย์ทั่วไปแห่งออสเตรเลีย (Royal Australian College of General Practitioners) กล่าว
ฉันได้รับผลการตรวจเชื้อเป็นบวก จะต้องทำอย่างไร?
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ประกาศในการประชุมคณะผู้นำรัฐและมณฑลต่างๆ ในสัปดาห์นี้ ผู้ที่พบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกจากชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็วไม่จำเป็นต้องไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) เพื่อยืนยันผลอีกต่อไป
แต่คุณสามารถโทรศัพท์ไปหาแพทย์จีพี (GP) หรือแพทย์ประจำตัวของคุณ และแจ้งผลการตรวจเชื้อที่เป็นบวกนั้น หรือในรัฐวิกตอเรีย คุณสามารถแจ้งผลการตรวจเชื้อไปยังสาธารณสุขวิกตอเรีย (Victoria Health) โดยตรงผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ตั้งแต่วันศุกร์นี้ (7 ม.ค.)
อย่างไรก็ตาม แพทย์ต่างๆ กล่าวว่าอาจมีปัญหาการขัดข้องหรือความสับสนเล็กๆ น้อยๆ สำหรับระบบใหม่นี้
"เราไม่รู้ชัดเจนว่านี่จะต้องดำเนินการอย่างไรในขณะนี้ เรากำลังหารือในหมู่แพทย์ด้วยกันเองและแน่นอนว่าพูดคุยกับสาธารณสุขว่าระบบนี้จะดำเนินการอย่างไร" แพทย์หญิงไพรซ์ กล่าว
ในวันศุกร์ที่ 7 มกราคม มุขมนตรีนิวเซาท์เวลส์ โดมินิก เพอร์โรต์เทต์ ประกาศด้วยเช่นกันว่า ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่พบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกจากชุดตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็ว หรือ rapid antigen tests จะต้องรายงานผลตรวจที่เป็นบวกของพวกเขาต่อสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ (NSW Health) และจะถูกนับรวมในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เช่นเดียวกับผู้ที่พบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกจากการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์
หากคุณได้รับผลการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์เป็นบวก จะมีการลงทะเบียนรายละเอียดกับสาธารณสุขของรัฐโดยอัตโนมัติ และคุณจะได้รับข้อความทางโทรศัพท์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องทำหลังจากนั้น
ผู้ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงสูงควรติดต่อแพทย์จีพีหรือแพทย์ประจำตัวของตน โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าเป็นผลจากการตรวจเชื้อรูปแบบใด เนื่องจากมียาบางตัวที่สามารถใช้ได้เพื่อลดผลกระทบจากการเจ็บป่วย แต่ยาเหล่านี้จะได้ผลดีที่สุดหากได้รับยาแต่เนิ่นๆ
ผู้ติดเชื้อที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง (รวมถึงโรคอ้วน) ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ผู้ที่อายุเกิน 65 ปี หรือสตรีมีครรภ์
“ผู้ที่มีโรคอื่นที่เกิดร่วมกับการติดเชื้อ เรา (แพทย์จีพี) จะสามารถส่งต่อผู้ป่วยให้ได้รับยาโซโทรวิแมบ (Sotrovimab) ซึ่งเป็นยาเสริมภูมิคุ้มกันที่ให้ทางหลอดเลือดดำได้ และสำหรับคนกลุ่มที่มีความเปราะบางเหล่านั้น มันสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องได้รับยาตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงต้นๆ ของการป่วย” พญ.ไพรซ์ กล่าว
ฉันต้องกักตัวหรือแยกตัวจากผู้อื่นนานแค่ไหน?
ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย ควีนส์แลนด์ แทสเมเนีย และเอซีที คุณต้องกักตัวหรือแยกตัวจากผู้อื่นเป็นเวลา 7 วัน ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียระยะเวลากักตัวคือ 10 วัน ในเขตนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีคุณต้องกักตัว 14 วัน และในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียผู้พบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกต้องกักตัวจนกว่าจะได้รับแจ้งให้ออกจากการกักตัวได้จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
วันที่คุณตรวจเชื้อโควิด-19 ให้นับเป็นวัน 0 ของการกักตัว (วันถัดไปหลังวันตรวจเชื้อให้นับเป็นวันที่ 1 ของการกักตัว)
ฉันต้องบอกใครบ้าง?
คุณต้องบอกกับผู้ที่อยู่ในครัวเรือนหรืออยู่ในบ้านเดียวกับคุณ (ครอบครัวหรือเพื่อนที่อาศัยอยู่ร่วมบ้าน) และคนที่คุณได้พบปะด้วยเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นการใช้เวลาร่วมกันมากกว่า 4 ชั่วโมงในสถานการณ์ที่ "เหมือนอยู่ร่วมบ้าน" (รวมถึงคนรัก) คุณต้องแจ้งให้พวกเขาทราบว่าคุณมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก พวกเขาจะต้องได้รับการตรวจเชื้อและต้องกักตัวด้วยเช่นกันเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน (หรือมากกว่านั้นในเวสเทิร์นออสเตรเลีย)
นอกจากนี้ ให้แจ้งที่ทำงานและผู้ที่คุณพบปะด้วยทางสังคมว่าคุณมีผลการตรวจเชื้อเป็นบวก เพื่อให้พวกเขาสามารถติดตามดูอาการของตนและรับการตรวจเชื้อหากจำเป็น ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้นผู้พบปะกับผู้ติดเชื้อถึงแม้จะไม่ได้พบปะกันใกล้ชิดมากนักก็จำเป็นต้องกักตัวเช่นกัน
อาการป่วยใดที่คาดจะเกิดขึ้นเมื่อติดเชื้อ?
คนวัยผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนแล้วส่วนใหญ่จะมีอาการที่ไม่รุนแรงคล้ายไข้หวัด เช่น ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล
“ยาเช่น Panadol หรือ Nurofen หรืออะไรทำนองนั้น จะช่วยบรรเทาอาการ” พญ.ไพรซ์ กล่าว
"เมื่อเราเข้าสู่อาการระดับปานกลาง นั่นคือเมื่อเราเริ่มมีไข้ขึ้นมากกว่าเดิมเล็กน้อย รู้สึกอ่อนแรงขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการขาดน้ำ และวิงเวียนศีรษะ"
"นี่คือตอนที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการเฝ้าจับตาดูอาการ ซึ่งเราแนะนำให้หาเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดโดยจับที่ปลายนิ้วของผู้ป่วย (pulse oximeter) มาใช้"
เครื่องวัดออกซิเจนในเลือดโดยจับที่ปลายนิ้วของผู้ป่วย (pulse oximeter) จะใช้หนีบนิ้วมือ เพื่อวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจ และสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาต่างๆ
หากคุณกำลังมีอาการป่วยอย่างรุนแรง เฉพาะตอนนี้เท่านั้น ที่ถึงเวลาต้องโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล (หมายเลข 000)
“แค่ดูแลตัวเองที่บ้าน … ให้ไปยังแผนกฉุกเฉินหรือโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000 เฉพาะเมื่อคุณมีอาการที่สำคัญ เช่น หอบหายใจลำบากหรือหายใจไม่ออกอย่างหนัก เจ็บหน้าอกมาก เป็นลม หรือเวียนศีรษะอย่างมีนัยสำคัญ” นายแพทย์ จอห์น เจอร์ราร์ด ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขควีนส์แลนด์ กล่าว
ให้ไปยังแผนกฉุกเฉินหรือโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 000 เฉพาะเมื่อคุณมีอาการที่สำคัญ เช่น หอบหายใจลำบากหรือหายใจไม่ออกอย่างหนัก เจ็บหน้าอกมาก เป็นลม หรือเวียนศีรษะอย่างมีนัยสำคัญ
“นอกจากนี้ ถ้าอาการของคุณไม่ดีขึ้นภายใน 48 ถึง 72 ชั่วโมง เพราะคนส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้นภายใน 48 ถึง 72 ชั่วโมง”
มีคำแนะนำให้ผู้ปกครองควรเฝ้าติดตามดูการรับประทานอาหารของเด็กๆ และหากพวกเขาไม่รับประทานอาหารและง่วงนอน ควรขอความช่วยเหลือจากแพทย์
ฉันจะโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือได้จากใครบ้าง?
หากคุณมีอาการรุนแรง คุณควรโทร 000 และบอกเจ้าหน้าที่ว่าคุณป่วยจากโควิด-19
โรคนี้สามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วและเป็นโรคที่ร้ายแรงได้ในบางคน
แต่อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะมีอาการป่วยไม่มากนักและสามารถพักฟื้นที่บ้านได้ หากคุณสามารถอยู่บ้านได้ คุณควรทำเช่นนั้น เนื่องจากแผนกฉุกเฉินอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 3,000 คนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องพักงาน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในบ้านของพวกเขา หรือเพราะพวกเขาพบผลการตรวจเชื้อเป็นบวกเสียเอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 500 คนกำลังต้องพักงานในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย“แผนกฉุกเฉินของเราอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมากเช่นเดียวกับบริการรถพยาบาลของเรา คำขอร้องของเราต่อผู้คนคืออย่าโทรศัพท์ไปยัง 000 นอกเสียจากว่าจะเป็นเหตุฉุกเฉินจริงๆ โปรดอย่าทำให้สายโทรศัพท์ของหมายเลข 000 ต้องเต็มเพราะการสอบถามข้อมูล ที่สามารถสอบถามที่จากที่อื่นได้” นางซูซาน เพียร์ซ รองเลขาธิการสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ กล่าวเมื่อวันพุธ
A hospital patient with a pulse oximeter on their finger. Source: TASS/Sipa USA/Erik Romanenko
อย่าโทรศัพท์ไปยัง 000 นอกเสียจากว่าจะเป็นเหตุฉุกเฉินจริงๆ โปรดอย่าทำให้สายโทรศัพท์ของหมายเลข 000 ต้องเต็มเพราะการสอบถามข้อมูล ที่สามารถสอบถามที่จากที่อื่นได้
“แผนกฉุกเฉินของเราไม่ใช่สถานที่สำหรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์หรือตรวจเชื้อด้วยชุดตรวจเชื้อ RAT แผนกฉุกเฉินมีเพื่อดูแลผู้ที่ไปที่นั่นเพราะเหตุฉุกเฉินที่ร้ายแรงถึงตาย และพวกเขาจะได้รับการให้ความสำคัญก่อนใครเสมอ”
ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐควีนส์แลนด์มีความเห็นเช่นเดียวกัน
“เรามีรายงานมากมายเกี่ยวกับผู้คนที่โทรศัพท์ไปยังหมายเลข 000 ทันทีที่พวกเขาได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 แม้จะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก และนั่นทำให้เกิดปัญหาในแผนกฉุกเฉินต่างๆ ของเรา ทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นเลย” นพ.เจอร์ราร์ด กล่าว
จุดแรกที่ควรโทรศัพท์ไปคือ แพทย์จีพีหรือแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์สายด่วน เนิร์ส ออน คอลล์ (Nurse on Call) ที่หมายเลข 1300 60 60 24 บริการนี้เป็นบริการให้คำแนะนำทางการแพทย์จากพยาบาลฟรีทางโทรศัพท์ ที่มีให้แก่ประชาชนในออสเตรเลียทุกคน
ประชาชนในนิวเซาท์เวลส์ สามารถติดต่อโทรศัพท์สายด่วนเพื่อให้การสนับสนุนการดูแลอาการโควิดเองที่บ้าน หรือ COVID-19 Care at Home Support Line ของรัฐได้ที่ 1800 960 933 เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ฉันจะหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน?
ราชวิทยาลัยแพทย์ทั่วไปแห่งออสเตรเลีย หรือ Royal Australian College of General Practitioners ได้จัดทำจุรสารให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแล COVID-19 ที่บ้าน
โทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเตรียมแจกชุดตรวจแอนติเจนฟรีให้ผู้ถือบัตรสิทธิ์ส่วนลด