มีจำนวนผู้สูบบุหรี่ที่ลดน้อยลงโดยเฉพาะในสตรี แต่ทว่ามีประเทศเพียงหนึ่งในแปดเท่านั้นที่ยังมุ่งหน้าตามเป้าหมายเพื่อลดการสูบบุหรี่ลงอย่างมีนัยสำคัญให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2025 องค์การอนามัยโลกกล่าว
ผู้คนจำนวนสามล้านคนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในแต่ละปีเนื่องจากการสูบบุหรี่ ซึ่งก่อให้เกิดโรคหัวใจและโรคระบบไหลเวียนโลหิต เช่นหัวใจวายและโรคเส้นโลหิตในสมองเสื่อม โดยโรคดังกล่าวยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญทั่วโลก ในโอกาสวันงดบุหรี่โลกในวันนี้
ตัวเลขดัวกล่าวยังรวมไปถึงผู้เสียชีวิตจำนวน 890,000 คนซึ่งรับควันบุหรี่อีกทอดหนึ่งจากผู้สูบบุหรี่
“จำนวนผู้สูบหรือความชุก (prevalence) ของการสูบบุหรี่ทั่วโลกนั้นลดลงจาก 27 เปอร์เซ็นต์ในปี 2000 เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 แสดงว่าได้มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น” คุณดักลาส เบตต์เชอร์ ผู้อำนวยการแผนกการป้องกันโรคไม่ติดต่อขององค์การอนามัยโลกกล่าวในการแถลงข่าว
ในงานเปิดตัวรายงานขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับแนวโน้มความชุกของการสูบบุหรี่ทั่วโลก เขากล่าวว่าประเทศอุตสาหกรรมมีการปรับปรุงที่รวดเร็วกว่าประเทศกำลังพัฒนา
“ปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งที่หยุดยั้งประเทศซึ่งมีร้ายได้น้อยหรือรายได้ปานกลางนั้น เป็นที่แน่นอนว่าประเทศเหล่านี้เผชิญกับการคัดค้านจากอุตสาหกรรมบุหรี่ ซึ่งเอาผู้เสียชีวิตเข้าแลกกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของพวกเขาอย่างเสรี และยังรักษาราคาให้ไม่แพงนักสำหรับเยาวชน” เขากล่าวเมื่อวานนี้ (พุธ 30 พ.ค.)
ความคืบหน้าในการเลิกนิสัยติดบุหรี่นั้นไม่สม่ำเสมอ โดยผู้คนจากทวีปอเมริกาเป็นพื้นที่เดียวซึ่งมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่จะลดจำนวนการสูบบุหรี่ลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2025 เมื่อเทียบกับปี 2010 ทั้งในบุรุษและสตรี องค์การอนามัยโลกกล่าว
อย่างไรก็ตาม ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นไม่อาจดำเนินการได้ตามเป้าหมาย โดยถูกเหนี่ยวรั้งจากคดีความเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ของบุหรี่และความหละหลวมของระบบภาษี คุณวินายัก ปราสาด จากหน่วยงานควบคุมบุหรี่ขององค์การอนามัยโลกกล่าว
บางพื้นที่ของยุโรปตะวันตกนั้นเข้าสู่ภาวะ “หยุดชะงัก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความล้มเหลวที่จะให้สตรีหยุดสูบบุหรี่ ส่วนชายจากทวีปแอฟริกานั้นก็ยังคงไม่กระเตื้องขึ้น และในแถบตะวันออกกลางนั้นกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ องค์การอนามัยโลกกล่าว
โดยรวมแล้ว การสูบบุหรี่นั้นคร่าชีวิตผู้คนกว่าเจ็ดล้านรายต่อปี และหลายคนก็ทราบว่าบุหรี่นั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง
แต่ทว่าผู้สูบบุหรี่เป็นจำนวนมากในประเทศจีนและอินเดียนั้นไม่ทราบเกี่ยวความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคเส้นโลหิตในสมองเสื่อม จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนในการเพิ่มการประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ องค์การอนามัยโลกกล่าวเสริม
ประเทศจีนและอินเดียนั้นมีจำนวนผู้สูบบุหรี่ที่สูงที่สุดในโลก เป็นจำนวน 307 ล้านคนและ 106 ล้านคนตามลำดับ จากจำนวนผู้ใหญ่ซึ่งสูบบุหรี่ทั่วโลก 1.1 ล้านคน ตามด้วยประเทศอินโดนีเซีย 74 ล้านคน จากตัวเลขขององค์การอนามัยโลก
ประเทศอินเดียยังมีผู้ใช้บุหรี่โดยไม่ใช้วิธีสูบเป็นจำนวนถึง 200 ล้านคน จากจำนวน 367 ล้านคนทั่วโลก
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
หาหมอเพื่อเลิกบุหรี่อย่างได้ผล
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอสไทย
วิทยุเอสบีเอสเริ่มให้บริการในห้าภาษาใหม่แล้วทางระบบดิจิตอล