เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนตั้งข้อสงสัยว่าไฟฟ้าลัดวงจรนั้นมีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเป็นสาเหตุของเพลิงไหมอาสนวิหารน็อทร์-ดาม หากอ้างอิงจากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตุลาการของฝรั่งเศสคนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในอาสนวิหารหรือทำการสืบค้นในซากปรักหักพังเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย
ฟังสัมภาษณ์ชาวปารีสแท้ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เป็นภาษาไทย
ปฏิกริยาชาวฝรั่งเศสในออสเตรเลียเมื่อทราบข่าวไฟไหม้น็อทร์-ดาม
Source: Image obtained by SBS News
การสืบสวนกำลังเกิดขึ้น ในระหว่างที่ฝรั่งเศสได้ให้การสดุดีเป็นเวลานานหนึ่งวันแด่เหล่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงผู้ปกป้องมิให้อาสนวิหารแห่งดังกล่าวพังทลายลง และยังทำการกอบกู้สิ่งมีค่าต่างๆ ออกมาอีกด้วย
ในขณะเดียวกันกับที่มีการสดุดี คนงานก่อสร้างหลายคนก็ได้เร่งรุดเข้าไปเสริมความมั่นคงให้กับบริเวณเหนือหน้าต่างรูปดอกกุหลาบอันเลื่องชื่อบานหนึ่ง ตลอดจนส่วนอื่นๆ ที่เปราะบางของอาคารสัญลักษณ์แห่งดังกล่าวซึ่งถูกเพลิงไหม้จนได้รับความเสียหาย
ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ได้จัดพิธีขึ้นที่พระราชวังเอลิเซเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนหลายร้อยคนผู้ต่อสู้กับเปลวไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วที่น็อทร์-ดามเป็นเวลาเก้าชั่วโมง และป้องกันไม่ให้อาคารถูกทำลาย ตลอดจนกอบกู้โบราณวัติถุที่สำคัญหลายชิ้นจากภายในออกมา
“เราเห็นสิ่งที่ถูกต้องต่อหน้าต่อตา ซึ่งได้รับการจัดการภายในชั่วพริบตา ด้วยความรับผิดชอบ ความกล้าหาญ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และมีความเป็นระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว” นายมาครงกล่าว
“เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้นจึงถูกหลีกเลี่ยงไปได้”
โดยประธานาธิบดีกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะได้รับเหรียญตราสำหรับความกล้าหาญและการอุทิศตน
อาสนวิหารขนาดมหึมาแห่งดังกล่าว รวมไปถึงยอดหอคอยซึ่งถูกเปลวเพลิงเผาทำลายและถล่มลงมา ก่อนหน้านี้กำลังอยู่ในช่วงแรกของการบูรณปฏิสังขรณ์ที่จะกินเวลายาวนาน
ส่วนของหลังคานั้นถูกทำลาย แต่หอระฆังอันเลื่องชื่อของน็อทร์-ดาม เช่นเดียวกับเหล่าหน้าต่างกุหลาบ เครื่องดนตรีออร์แกน และงานศิลปะอันล้ำค่าได้รับการกอบกู้ไว้ได้
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวเตือนว่าตัวอาคารนั้นยังคงเปราะบางและเป็นอันตรายอย่างที่สุด
เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีผู้ใดเสียชิวิตจากเปลวไฟซึ่งปะทุขึ้นระหว่างที่มีการสวดแมส หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ของทางวิหารทำการอพยพผู้ที่อยู่ภายในออกมาอย่างรวดเร็ว
ในหมู่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งได้รับการเทอดเกียรติได้แก่อนุศาสนาจารย์ ชอง-มาร์ค ฟูร์นิเยร์ จากหน่วยดับเพลิงปารีส ผู้กล่าวว่าเขาได้รับเครดิตอย่างไม่ถูกต้องว่าเขาได้ช่วยกอบกู้มงกุฎหนาม ซึ่งเชื่อกันว่าพระเยซูทรงสวมใส่ในขณะที่ถูกตรึงกางเขน
อนุศาสนาจารย์คนดังกล่าวเผยว่า ทีมนักกู้ชีพทีมหนึ่งได้พังตู้เก็บรักษาเข้าไป และเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งมีรหัสลับเพื่อปลดกุญแจก็ดำเนินการต่อจนสำเร็จ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเชื่อว่าไฟไหม้ครั้งดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ และได้ทำการสอบปากคำทั้งพนักงานของอาสนวิหารและคนงานซึ่งกำลังลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์
มีผู้ถูกสอบปากคำไปแล้วเป็นจำนวน 40 รายจนถึงเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดี 18 เม.ย.) หากอ้างอิงจากสำนักงานอัยการกรุงปารีส
นายมาครงต้องการจะซ่อมแซมอาสนวิหารแห่งดังกล่าวขึ้นใหม่ภายในห้าปี ให้ทันกับกีฬาโอลิมปิกปี ค.ศ. 2024 ที่กรุงปารีสจะเป็นเจ้าภาพ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า งานใหญ่ๆ ที่จำเป็นต้องทำนั้นอาจใช้เวลาถึง 15 ปีได้อย่างง่ายดาย เพราะว่ามันใช้เวลาหลายเดือน หรือหลายปี แม้เพียงแค่จะวางแผนว่าควรจะทำอะไรบ้าง
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
เหตุใดอาสนวิหารน็อทร์-ดาม จึงสำคัญยิ่ง
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ผู้เชี่ยวชาญเตือนยังเสี่ยงมะเร็งลำไส้จากเนื้อแดง ‘แค่พอประมาณ’