นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ให้คำมั่นจะบูรณะมหาวิหารนอเทรอดามในกรุงปารีส หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น (15 เม.ย.) โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยในปารีสยังคงต่อสู้กับเพลิงขนาดมหึมาอย่างไม่ลดละ
นายมาครงแสดงความโล่งใจ โดยกล่าวว่า มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการกอบกู้จากความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงไปกว่านี้จากเพลิงที่อาจทำลายสถานที่แห่งนี้ทั้งหมด และแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ
“เราจะสร้างนอเทรอดามขึ้นใหม่ไปด้วยกัน” นายมาครงกล่าหลังเข้าตรวจพื้นที่บริเวณมหาวิหารนอเทรอดาม
Firefighters use hoses as Notre Dame cathedral burns in Paris. Source: AP
สรุปเหตุการณ์เพลิงไหม้ มหาวิหารนอเทรอดาม
- ไฟลุกไหม้ในช่วงบ่ายวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส (15 เม.ย. )
- หอคอยของมหาวิหารที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศรรตวรรษที่ 12 กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะด้วยงบประมาณ 6 ล้านยูโร ($9.5 ล้านดอลลาร์) มีรูปปั้นบางส่วนถูกขนออกไปจากมหาวิหาร
- ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ทางการฝรั่งเศสอยู่ในระหว่างการสืบสวน ว่าการบูรณะในครั้งนี้เป็นสาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้หรือไม่
- นายเอ็มมานูเอล เกรกรัวร์ รักษาการนายกเทศมนตรีกรุงปารีสระบุว่า ไฟได้เริ่มต้นจากบริเวณยอดหอคอย ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดแรกได้พยายามที่จะขนย้ายงานศิลปะและชิ้นงานอื่น ๆ ที่ประเมินค่าไม่ได้ออกจากมหาวิหาร
- ส่วนยอดซึ่งทำจากไม้และตะกั่วถล่มลงมาพร้อมหลังคา โดยเพลิงได้ลงมาอยู่ในบริเวณหอคอยรูปทรงสี่เหลี่ยมด้านหนึ่งของตัวมหาวิหาร
- โฆษกมหาวิหารนอเทรอดามระบุว่า โครงสร้างภายในที่ทำจากไม้ถูกเผาไหม้
- เมื่อวันพฤหัสบดีสัปดาห์ก่อน (11 เม.ย.) รูปปั้นทางศาสนาจำนวน 16 ชิ้น ได้รับการขนย้ายออกมาจากมหาวิหารเพื่อนำมาทำความสะอาด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบศรรตวรรษ ทั้งหมดปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้
- หน่วยงานด้านความปลอดภัยพลเรือนของฝรั่งเศสระบุว่า ได้พยายามดับเพลิงทุกวิถีทาง ยกเว้นการใช้อากาศยานปล่อยน้ำ โดยระบุว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากอาจทำให้โครงสร้างทั้งหมดของมหาวิหารพังลงมา
- นายเอ็มมานุเอล มาครง ประะธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เข้าตรวจตราในพื้นที่ และประกาศให้เหตุเพลิงไหม้นี้เป็นภาวะฉุกเฉิน
- กรมตำรวจกลางของฝรั่งเศสยืนยันว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ชาวปารีสและนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในความตื่นตระหนก บ้างอยู่ในสภาพน้ำตาอาบหน้า บ้างพยายามสวดมนต์ขอพร เฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความสลดใจ เมื่อคืนวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงปารีส
ผู้คนอุทานพร้อมน้ำตา เมื่อส่วนบนของยอดของมหาวิหารหล่นร่วงสู่กองเพลิงที่ลุกลามขึ้นไปถึงหลังคา เมื่อเวลา 19:50 น. ตามเวลาท้องถิ่น พวกเขาอุทานอีกครั้งในไม่กี่วินาที่ต่อมา เมื่อยอดวิหารถล่มลงเบื้องหน้ากล้องโทรศัพท์มือถือนับพันเครื่องที่จับภาพเหตุการณ์
“ปารีสเสียโฉมไปแล้ว เมื่องนี้จะไม่มีวันเหมือนเดิม” ฟิลิปป์ พนักงานบริษัทการสื่อสารในวัยราว 30 ปี ขี่จักรยานออกมาสังเกตการณ์หลังได้ทราบข่าวจากเพื่อนถึงเหตุเพลิงไหม้
“ผมเป็นชาวปารีส พ่อและตาของผมก็เช่นกัน สิ่งที่เราทำเหมือนกัน คือพาลูกๆ หลานๆ มาเยี่ยมชมที่นี่ แต่ผมจะไม่ให้พวกเขาเห็นที่นี่ในสภาพแบบนี้” ฟิลิปป์กล่าว
“มันคือหายนะ” ฟิลิปป์กล่าวเสริม “ถ้าคุณเป็นคนที่สวดมนต์ ผมว่าตอนนี้คือเวลาอันสมควร”ขณะที่ ฌอง-โคลด กาเลต์ (Jean-Claude Gallet) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุกับผู้สื่อข่าวด้านนอกมหาวิหารว่า “โครงสร้างหลักของมหาวิหารนอร์เทอดามนั้นได้รับการรักษาและช่วยเหลือแล้ว” โดยเขาได้ระบุอีกว่า ดูเหมือนหอคอยทั้งสองข้างนั้นจะได้รับความช่วยเหลือแล้วเช่นกัน
A huge fire swept through the roof of the famed Notre-Dame Cathedral in central Paris on Monday evening, sending flames and huge clouds of grey smoke billowing Source: AAP
โดยภารกิจหลักของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้คือ การลดอุณหภูมิภายในมหาวิหารให้เย็นลง ซึ่งจะใช้เวลาราวหลายชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ตำรวจปารีสได้พยายามกันผู้คนเดินเท้าออกจากบริเวณเกาะสองแห่งในแม่น้ำแซน รวมถึงเกาะอย่าง อิล เดอ ลา ซิเต (Île de la Cité) ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารกอธิกแห่งนี้ แต่ผู้มาสังเกตการณ์นั้นมีจำนวนมาก ซึ่งทำให้การจราจรติดขัด หลังพวกเขาไปรวมตัวกันบนสะพานหินใกล้สถานที่เกิดเหตุ
หญิงคนหนึ่งในบริเวณนั้นอยู่ในสภาพน้ำตานองจากกรอบแว่นตาของเธอ เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปพูดคุย เธออยู่ในสภาพที่พูดไม่ออก
“มันจบแล้ว เราจะไม่ได้เห็นมหาวิหารแห่งนี้อีกต่อไป” เจโรม ฟอวเทรย์ ชายอายุ 37 ปีคนหนึ่งที่มาสังเกตการณ์กล่าว
“ตอนนี้เราต้องการที่จะรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมต้องเป็นที่นอเทรอดาม มันอาจเป็นสารจากเบื้องบน” เขากล่าว
ประวัติศาสตร์ที่ถูกเผาไฟ
เพลิงและควันพวยพุ่งจากตัวมหาวิหารนอเทรอดามในปารีส 15 เม.ย. 2019 (Source: AAP) Source: AAP
แซม ออกเดน อายุ 50 ปี เดินทางจากกรุงลอนดอนพร้อมสามี มารดา และลูกชายทั้งสองคน เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) พวกเขาเดินทางมาที่ปารีส เพื่อมาเยี่ยมชมมหาวิหารนอเทรอดาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางรอบโลกของพวกเขา เพื่อไปดูสถานที่ประวัติศาสตร์ ซึ่งกินเวลาหลายปี
“มันเป็นเรื่องที่เศร้ามาก เศร้าที่สุดตั้งแต่ในชีวิตนี้เคยพบเจอ” นางออกเดนกล่าว
เธอบอกว่า ไฟได้ลุกไหม้เป็นจุดเล็กๆ ในตอนแรก แต่ในอีกชั่วโมงให้หลัง “ทุกอย่างก็พังลงมา”
แมรี ฮักซ์ทะเบิล มารดาของเธอในวัย 73 ปี บอกว่า “ที่นี่ (มหาวิหารนอเทรอดาม) เป็นสถานที่ในรายการที่ฉันอยากไป แต่ตอนนี้ ฉันจะไม่อยากแม้แต่จะเดินเข้าไป”
ไม่ห่างไปจากพวกเขามากนัก เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่เดินทางมาจากกรุงลอนดอน
“มันเป็นเรื่องที่แย่มาก” นาตาลี แคดวอลลาเดอร์ อายุ 42 ปี ซึ่งมาถึงกรุงปารีส 2 วันก่อนหน้าวันเกิดเหตุ พร้อมสามีและลูกๆ ของเธอทั้งสองคน เพื่อมาท่องเที่ยวเป็นเวลาราว 1 สัปดาห์ กล่าว
“นี่เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ และสิ่งที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายมาก มันเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดตั้งแต่เคยเกิดขึ้นมา” เธอกล่าว พร้อมอ้างอิงเหตุก่อการร้ายในปารีส เมื่อปี 2015
ในตอนแรก ครอบครัวของเธอวางแผนที่จะมาเยี่ยมชมมหาวิหารนอรเทรอดามเมื่อวานนี้ แต่เปลี่ยนไปเยี่ยมชมหอไอเฟลแทน โดยจะมาเยี่ยมชมภายในมหาวิหารในวันอังคารนี้ (16 เม.ย.)
ทั้งนี้ มหาวิหารนอเทรอดามกำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะ โดยมีรายงานว่าเพลิงได้เริ่มปะทุหลังจากนักท่องเที่ยวคนสุดท้ายออกไปจากมหาวิหารแห่งนี้ในเวลาไม่กี่นาที
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
เปิดใจสาวไทยตีตรา (ตอน 1)