รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
นางพอลลีน แฮนสัน ผู้นำพรรควันเนชัน เชื่อว่าการปิดโขดหินอูลูรู ไม่ให้นักท่องเที่ยวปีนอีกต่อไปเป็นความพยายามที่น่าขบขัน และยังเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการพยายามปิดชายหาดบอนไดบีช ของนครซิดนีย์
อูลูรู เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจินส์ เผ่าอะนานกู และการตัดสินใจห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวปีนป่ายอูลูรูอีกต่อไปเป็นมติของคณะกรรมาธิการบริหารอุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา ในปี 2017
การห้ามดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมนี้ แต่นางแฮนสันแสดงความไม่เห็นด้วยกับมติที่ว่า ระหว่างที่เธอกล่าวในรายการ ทูเดย์ โชว์ เมื่อวันจันทร์ (15 ก.ค.)
“การที่มันสร้างรายได้ มันสร้างงานให้แก่ชุมชนชาวพื้นเมือง คุณมีนักท่องเที่ยวกว่า 4-5 แสนคนต่อปีที่ต้องการไปที่นั่น และไปปีนโขดหินยักษ์นี้” นางแฮนสัน กล่าว
เรื่องราวที่น่าสนใจ
แซ่บอีหลีที่อลิซสปริงส์
“ไม่ต่างอะไรกับการที่บอกว่าเราจะปิดชายหาดบอนไดบีช เพราะมีคนจำนวนหนึ่งจมน้ำตายที่นั่น น่าขันอย่างมาก นี่เป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์สำหรับชาวออสเตรเลียทุกคน”
“ฉันไม่เห็นถึงเรื่องความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม ในเมื่อผู้คนได้ปีนป่ายโขดหินยักษ์นี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และจู่ๆ พวกเขาก็ต้องการให้ปิด ฉันไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจจริงๆ”
ด้านนายแซมมี วิลสัน ประธานคณะกรรมการบริหารที่บริหารจัดการอุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา อ้างถึงความศักดิ์สิทธิ์ของอูลูรูสำหรับชาวอะบอริจินส์ และความจำเป็นที่จะต้องอนุรักษ์โหดหินยักษ์ดังกล่าวไว้ไม่ให้ได้รับความเสียหายหลังการประกาศในปี 2017
“มันเป็นสถานที่ที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่สนามเด็กเล่น หรือธีมปาร์ค อย่างดิสนีย์แลนด์” เขากล่าวในขณะนั้น
“เราต้องการให้คุณมาที่นี่ มาฟังเรา และเรียนรู้ เราได้ครุ่นคิดเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน”
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ผู้อพยพไม่ได้แย่งงานชาวออสซีรายงานเผย