ประเด็นสำคัญ
- ประชาชนรัฐวิกตอเรียได้รับคำเตือนโอกาสสุดท้ายให้อพยพ เนื่องจากบางพื้นที่เผชิญกับไฟป่าที่โหมกระหน่ำ
- คาดการณ์ว่าอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ในในช่วง 30 องศา และมีลมกรรโชกแรงสูงสุด 80 กม./ชม. ในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะพัดเปลวไฟลุกลาม
- ประชาชนที่อพยพจากเขตอันตรายได้รับแนะนำให้ไปยังพื้นที่ที่หลบภัย เช่น บัลลารัต (Ballarat) อารารัต( Ararat) และแมรีโบโร (Maryborough)
ประชาชนชาวรัฐวิกตอเรียที่อยู่ในเขตเกิดไฟป่ายังมีเวลาหลายชั่วโมงในการอพยพ ก่อนที่ภัยพิบัติจะมาเยือนทางตะวันตกของรัฐ โดยหัวหน้าหน่วยงานดับเพลิงประจำประเทศออกคำสั่งครั้งสุดท้ายให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เพลิงไหม้
ไฟป่าที่โหมกระหน่ำในพื้นที่บายอินดีนทางตะวันตกเฉียงเหนือของบัลลารัตได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 21,300 เฮกตาร์ โดยคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ช่วง 30 องศาฯ และลมกระโชกแรงถึง 80 กม./ชม. คาดว่าจะพัดเปลวไฟลุกลาม
โดยคาดว่าภัยอันตรายดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่เที่ยงวันพุธ (28 กุมภาพันธ์) และเจ้าหน้าที่กล่าวว่าไฟอาจลุกไหม้ผ่านชุมชนต่างๆ ในเมืองโบฟอร์ต (Beaufort) เอล์มเฮิร์สต์ (Elmhurst) แอมพิเทียเตอร์ (Amphitheatre) เล็กซ์ตัน (Lexton) เลียร์มันธ์ (Learmonth) และคลูนส์ (Clunes)
ประชาชนได้รับคำเตือนให้อพยพภายในเช้าวันพุธ ขณะที่ผู้ที่อยู่ในภูมิภาคที่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ขั้นรุนแรงก็ได้รับคำสั่งให้อพยพเช่นกัน
เจสัน เฮฟเฟอร์แนน หัวหน้าหน่วยดับเพลิงประจำประเทศขอให้ใครก็ตามที่เหลืออยู่ในพื้นที่ซึ่งกำลังวางแผนปกป้องบ้านของตนเพื่อพิจารณาใหม่ เนื่องจากไม่มีบ้านใดได้รับการออกแบบมาให้อยู่รอดได้ในสภาวะภัยพิบัติ
“เว้นแต่ทรัพย์สินของคุณได้รับการจัดเตรียมอย่างดีและคุณมีอุปกรณ์ ทรัพยากรในการดับเพลิง รวมถึงคุณมีร่างกายที่แข็งแรงและมีจิตใจที่สามารถรับมือเพลิงไหม้ในระยะยาวเพื่อปกป้องบ้านของคุณเอง ผมยังยืนยันตามคำแนะนำเดิมคือควรออกจากบ้านให้เร็วที่สุด” เฮฟเฟอร์นันบอกกับ ABC TV เมื่อวันพุธ เช้า.
เขากล่าวว่ากลุ่มเมฆทางตะวันตกของรัฐวิกตอเรียได้ควบคุมสภาพอากาศในช่วงเช้าเอาไว้ แต่ทันทีที่อุณหภูมิที่ร้อนจัดเพลิงรุนแรงก็เริ่มต้นขึ้น
“วันนี้โชคไม่ดีที่มีโอกาสเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและฟ้าผ่าแห้งเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟป่าเพิ่มเติมในพื้นที่” เขากล่าว
พื้นที่ที่มีระดับอันตรายจากไฟไหม้รุนแรงในวันพุธ ได้แก่ เขตภูมิภาคมาลลี ( Mallee) ตอนเหนือของรัฐ ตอนกลางเหนือตอนกลาง และตะวันตกเฉียงใต้
เมืองมิลดูรา(Mildura) มีอุณหภูมิถึง 44 องศาเซลเซียส และพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะคืบคลานเข้าสู่ช่วงอุณหภูมิราว 40 องศาฯ ก่อนที่กระแสลมเย็นจะพัดผ่านในพื้นที่ตอนกลางของรัฐวิกตอเรีย หลังเวลา 20.00 น. เวลาท้องถิ่น
ประชาชนที่อพยพจากเขตอันตรายได้รับคำแนะนำให้ไปยังพื้นที่หลบภัยที่เตรียมไว้ เช่น บัลลารัต (Ballarat) อารารัต( Ararat) และแมรีโบโร (Maryborough)
เจสัน เทมพลาร์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรีย กล่าวในการประชุมสภาพิเรนีส ไชร์ (Pyrenees Shire Council) ที่เมืองโบฟอร์ตเมื่อบ่ายวันอังคารว่า ได้จัดกำลังพลด่วนพร้อมที่จะปิดถนนตามคำสั่งของผู้ควบคุมเหตุการณ์ในวันพุธ
“การส่งข้อความอพยพออกไปแต่เช้ามีความสำคัญมาก เพราะเมื่อถนนเหล่านั้นปิดลงก็แค่จบข่าว” เขากล่าว
“เหตุผลที่เราปิดถนนเหล่านี้ก็เพื่อความปลอดภัยสาธารณะเท่านั้น มันอันตรายเกินไปที่จะอยู่บนถนนสายเหล่านั้น”
ศูนย์ดูแลฉุกเฉินของโบฟอร์ตถูกปิดเมื่อวันพุธ และไฟป่าที่เขตบายอินดีนส่งผลให้ต้องมีการตัดไฟฟ้า หากเกิดไฟป่าเหนือทางหลวงสายตะวันตก
คาดว่าจะมีนักผจญเพลิงราว 500 คนลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมเครื่องบินมากกว่า 60 ลำที่พร้อมจะต่อสู้กับเปลวเพลิง
หน่วยงานดับเพลิงชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งได้จัดรถดับเพลิง 25 คัน และนักดับเพลิงของตัวเอง 110 คน เพื่อช่วยต่อสู้กับเพลิงไหม้ที่เบอินดีน (Bayindeen) นอกจากนี้ได้มีการจัดส่งเครื่องบินเพิ่มเติมเข้าประจำการใกล้กับชายแดนรัฐวิกตอเรีย
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าจะเกิดอันตรายจากไฟไหม้ขั้นรุนแรงในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐเซาท์ออสเตรเลียในวันพุธ โดยรัฐมนตรีที่ดูแลงานบรรเทาภัยพิบัติฉุกเฉิน โจ ซาคัคส์ (Joe Szakacs) เตือนว่านักดับเพลิงของรัฐกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดในฤดูร้อนนี้
โดยคาดว่าจะมีเขตพื้นที่ 7 แห่งของเซาท์ออสเตรเลียได้รับอันตรายจากไฟไหม้ขั้นรุนแรงในวันพุธนี้
“มันน่าจะเป็นช่วงที่ประชาชนจะได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อนในช่วงซัมเมอร์นี้ และเราเหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว” ซาคัคส์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“(แต่) ความอิ่มเอมใจก็ต้องสะดุดลง เราต้องเผชิญกับสภาวะร้ายแรงภายในรัฐของเรา”
ไฟป่าที่บายอินดีนในรัฐวิกตอเรีย ทำลายบ้านเรือนไปแล้ว 6 หลัง แต่คาดว่าจะมีมากกว่านี้หากสถานการณ์คลี่คลายลง
สัตว์ในฟาร์มมากกว่า 100 ตัวถูกไฟป่าครอกตายหรือสูญหาย ตามการระบุของศูนย์ควบคุมแห่งรัฐ