รัฐนิวเซาท์เวลส์กำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ในร่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดี (23 ธ.ค.) เป็นต้นไป อีกทั้งเริ่มนำมาตรการจำกัดบางส่วนกลับมาใช้อีกครั้งหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงต่อเนื่อง
นายโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี พร้อมกับขอให้ประชาชนงดไปตรวจโควิดแบบพีซีอาร์ (PCR) ในช่วงนี้ เว้นเสียแต่ได้รับการชี้แนะจากทางการหรือแสดงอาการป่วย
นอกจากนี้ สถานประกอบธุรกิจบริการ (hospitality) จะอยู่ภายใต้กฎความหนาแน่นสองตารางเมตรตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม การเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องการสวมหน้ากากและความหนาแน่นนี้จะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 27 มกราคม
มุขมนตรีเพอร์โรต์เทต์ยังขอให้ผู้ที่ทำงานจากบ้านได้ยังคงทำงานจากบ้านในระยะนี้ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
วันนี้ (23 ธ.ค.) รัฐนิวเซาท์เวลส์บันทึกจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศที่ 5,715 ราย สูงกว่ายอดเมื่อวานนี้ 1,952 ราย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตหนึ่งรายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
จำนวนผู้ป่วยโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 347 ราย อยู่ในแผนกผู้ป่วยหนัก 45 ราย
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์พุ่งสูงต่อเนื่อง ด้านคลินิกตรวจเชื้อก็มีผู้รอรับบริการหนาแน่นเช่นกัน
หลังการประชุมคณะผู้นำรัฐแห่งชาติเมื่อวันพุธ (22 ธ.ค.) มุขมนตรีเพอร์โรต์เทต์เผยว่ากำลังพิจารณาแจกชุดตรวจโควิดแบบทราบผลเร็วแก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้เริ่มขาดตลาดและมีราคาแพง
“การแจกจ่ายชุดตรวจแอนติเจนแบบทราบผลเร็วแก่ประชาชนที่ประสงค์ทำสิ่งที่ถูกต้อง จะช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อคลินิกตรวจเชื้อ พร้อมสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตแก่ประชาชน” นายเพอร์โรต์เทต์กล่าว
“นอกจากนี้ยังช่วยให้ประชาชนสามารถสังเกตอาการของตนและทำกิจวัตรประจำวันต่อไปได้อย่างมีความรับผิดชอบ ช่วยปกป้องทั้งตนเอง ครอบครัว และชุมชน”
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
กฎการกักตัวและการตรวจเชื้อโควิดเป็นอย่างไรในแต่ละรัฐในออสเตรเลีย
ทางการยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องเร่งบรรเทาภาระจุดตรวจโควิด-19 ทั่วรัฐช่วงสองวันสุดท้ายก่อนคริสต์มาส หลังจากมีผู้รอใช้บริการจำนวนมากในหลายจุดตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ผู้ประสงค์เดินทางระหว่างรัฐ หรือต้องการผลตรวจยืนยันก่อนร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ต้องรอหลายชั่วโมงเพื่อรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) และรอแจ้งผลอีกประมาณ 72 ชั่วโมง
ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์คลายมาตรการจำกัดโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มรวมทั้งผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่คาดการณ์กันว่าทางการอาจกลับมาประกาศใช้มาตรการบังคับเช็กอินผ่านคิวอาร์โค้ดที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้า และสถานประกอบธุรกิจบริการ
ช่วงคริสต์มาสปีนี้ ผู้คนนับหมื่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องกักตัวท่ามกลางการแพร่ระบาดต่อเนื่องของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
กฎปัจจุบันกำหนดให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัวภายในที่พักอาศัยจนกว่าจะได้รับผลยืนยันทางการแพทย์ว่าปลอดภัย แม้จะฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม
“หากคุณจัดการตัวเอง คุณสามารถออกจากการกักตัวได้ใน 10 วันหลังมีผลตรวจเป็นบวก โดยต้องไม่มีอาการใด ๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 72 ชั่วโมง ซึ่งคุณจะได้รับข้อความ SMS แจ้งข้อมูลส่วนนี้” สาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ชี้แจง
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนเข็มกระตุ้น
1 ใน 5 ของกรณีผู้ติดเชื้อรายใหม่ช่วงสัปดาห์ที่แล้วอยู่ในพื้นที่เมืองนิวคาสเซิล (Newcastle) หรือเมืองเลคแมกควารี (Lake Macquarie) ที่อยู่ข้างเคียง ขณะที่นครซิดนีย์และเมืองแคนเทอร์บิวรี-แบงก์สทาวน์ (Canterbury-Bankstown) บันทึกจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เมื่อวันอังคาร (21 ธ.ค.) นายแบรด ฮาซซาร์ด (Brad Hazzard) รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวเซาท์เวลส์ กล่าวโทษ “การตรวจเชื้อเพื่อการท่องเที่ยว” ว่าเป็นสาเหตุของแถวยาวรอรับบริการตรวจเชื้อ ส่งผลให้ที่ประชุมคณะผู้นำรัฐเมื่อวานนี้เห็นควรขอคำปรึกษาจากคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ว่าควรกำหนดให้ต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบเป็นเงื่อนไขเดินทางข้ามรัฐต่อไปหรือไม่
ปัจจุบัน อัตราการฉีดวัคซีนครบสองโดสในประชากรวัย 12 ปีขึ้นไปของรัฐนิวเซาท์เวลส์อยู่ที่ร้อยละ 92.61
ทั้งนี้ สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ลูกชายของชายผู้ติดโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดการล็อกดาวน์ที่ไบรอนถูกปรับ $35,000