กลุ่มหนุนผู้อพยพหวั่น ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมออสฯ อาจสร้าง 'ระบบชนชั้น'

ที่ประชุมถกร่าง พ.ร.บ.แก้ไขกฎหมายประกันสังคมออสฯ กลุ่มสนับสนุนผู้อพยพชี้ เพิ่มเวลารอรับเงินช่วยเหลือในผู้อพยพรายใหม่ไม่ยุติธรรม หวั่นสร้างระบบชนชั้น คนย้ายประเทศในอนาคตอาจเมินออสเตรเลีย

Department of Social Services deputy secretary Matthew Flavel has denied newly arrived migrants will be left to 'fall through the cracks'.

Department of Social Services deputy secretary Matthew Flavel has denied newly arrived migrants will be left to 'fall through the cracks'. Source: AAP

การประชุมหารือของคณะกรรมการรัฐสภา กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายประกันสังคม (ในส่วนของระยะเวลารอที่สม่ำเสมอสำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นใหม่) ศ.ศ. 2021

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย.) ที่ประชุมได้รับทราบหลักฐานและข้อคิดเห็น จากกลุ่มทำงานเพื่อสนับสนุนผู้อพยพย้ายถิ่นและสวัสดิการรัฐ ในเวทีประชาพิจารณ์ ที่ระบุว่า กฎหมายที่จะบังคับให้ผู้อพยพย้ายถิ่นต้องรอนานขึ้น ก่อนที่จะสามารถเข้าถึงเงินสวัสดิการบางส่วนของรัฐได้ มีความเสี่ยงที่จะสร้าง “ระบบสองชนชั้น” จากการให้ความสำคัญกับการตัดลดงบประมาณแผ่นดินระยะสั้น ที่ส่งผลระยะยาวต่อการตั้งรกราก
หากร่าง พ.ร.บ.แก้ไขฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภา ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ผู้อพยพย้ายถิ่นรายใหม่จะต้องรอเป็นเวลา 4 ปี ก่อนที่จะสามารถเข้าถึงเงินสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐบาลออสเตรเลียได้ ซึ่งรวมถึง 

  • เงินที่จ่ายให้ผู้ดูแล (Carer Payment)
  • เงินช่วยเหลือกรณีลาคลอด (Parental Leave Pay)
  • เงินช่วยเหลือบิดากรณีลางานระหว่างภรรยาคลอดบุตร (Dad and Partner Pay)
  • เงินช่วยเหลือผู้ดูแล (Carer Allowance)
  • สิทธิประโยชน์ทางภาษีของครอบครัวชาวออสเตรเลีย (Family Tax Benefit)
  • บัตรสุขภาพสำหรับผู้มีรายได้น้อย (Low-income Health Care Card)
  • บัตรสุขภาพผู้สูงอายุเครือจักรภพ (Commonwealth Seniors Health Card)
ระยะเวลารอ 4 ปี มีผลแล้วสำหรับเงินสงเคราะห์รายได้ผู้ว่างงานจ๊อบซีกเกอร์ (JobSeeker) เงินสงเคราะห์รายได้เยาวชน (Youth Allowance Payment) เงินเพื่อการศึกษา Austudy และเงินสวัสดิการบางประเภท

มีความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจสร้างความเครียดทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างเหลื่อมล้ำต่อผู้หญิง และอาจทำให้ผู้คนเลือกที่จะไม่หลบหนีเมื่อเกิดความรุนแรงในครอบครัว

นายโมฮัมเหม็ด อัล-คาฟาจี (Mohammad Al-Khafaji) ประธานสมาพันธ์สภาชุมชนชาติพันธุ์แห่งออสเตรเลีย (FECCA) ได้กล่าวไปยังคณะกรรมการรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มาตรการดังกล่าวนั้น “ไม่ยุติธรรมถึงที่สุด” และไม่มีความรอบคอบ 

“สิ่งที่กฎหมายนี้จะสร้างขึ้นคือระบบสองชนชั้น ที่คุณจะต้องอยู่ในออสเตรเลียให้นานพอ คุณจะต้องใช้เวลาจนกว่าจะเป็นชาวออสเตรเลียมากพอ ที่สมควรจะได้รับความช่วยเหลือโดยโครงข่ายทางสังคม นั่นไม่ใช่ออสเตรเลียที่ผมรู้จัก” นายอัล-คาฟาจี กล่าว
Chief Executive Officer of FECCA Mohammad Al-Khafaji speaking via Skype.
FECCA CEO Mohammad Al Khafaji. Source: SBS
นายอัล-คาฟาจี กำลังเรียกร้องมีการจัดทำแบบจำลองข้อมูลที่มีความละเอียดมากขึ้น เพื่อประเมินผลที่จะตามมาทางเศรษฐกิจและสังคมจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว เช่นเดียวกับผลกระทบต่อความน่าสนใจของโครงการอพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลีย 

นางแซนดรา เอลเฮลว์ ไรท์ (Sandra Elhelw Wright) ประธานสภาการตั้งรกรากแห่งออสเตรเลีย (Settlement Council of Australia) ได้ชี้ว่า เวลารอเข้าถึงเงินสวัสดิการที่ยาวนานขึ้นนั้น จะส่งผลโดยตรงกับความเชื่อมแน่นทางสังคม และโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้อพยพย้ายถิ่น 

“มันเป็นช่วงแรกในการตั้งรกรากของผู้อพยพย้ายถิ่น ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คนต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด สิ่งที่เราพบเห็นในช่วงรอรับเงินสวัสดิการก็คือ ผู้คนส่วนมากต้องต่อสู้ดิ้นรนมากที่สุดในช่วงเวลานี้” นางไรท์ กล่าว

แผนการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายสวัสดิการสังคมนี้ ได้มีการประกาศเป็นครั้งแรกในการแถลงร่างงบประมาณสหพันธรัฐในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะประหยัดงบประมาณของรัฐไปเป็นมูลค่า $671 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 5 ปี 

ทั้งนี้ ผู้ถือวีซ่าด้านมนุษยธรรม (Humanitarian Visa) รวมถึงสมาชิกครอบครัวของพวกเขา จะยังได้รับการยกเว้นจากระยะเวลารอรับเงินสวัสดิการรัฐที่ได้รับการขยายเวลาออกไป

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลเฉพาะผู้ที่จะได้เป็นผู้อาศัยถาวร (พีอาร์) ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ สำหรับผู้ที่อาศัยในออสเตรเลียอยู่แล้ว   

คณะกรรมการรัฐสภา ยังได้รับทราบถึงคำเตือนจากคนทำงานสนับสนุนผู้อพยพย้ายถิ่นและสวัสดิการรัฐอีกว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นบางคนอาจต้องรอเป็นเวลานานสูงสุดถึง 8 ปี ก่อนที่จะสามารถเข้าถึงเงินสวัสดิการของรัฐได้ ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านจากวีซ่าชั่วคราว มาเป็นวีซ่าผู้อยู่อาศัยถาวร (พีอาร์)

กลุ่มทำงานสนับสนุนยังกล่าวในการหารืออีกว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้อาศัยถาวรในออสเตรเลียทั้งหมด ได้อยู่อาศัยอยู่ด้วยวีซ่าชั่วคราว และจ่ายภาษีให้กับประเทศ

นายอัล-คาฟาจี กำลังกังวลว่า สิ่งนี้จะส่งสารที่ผิดพลาดออกไปยังผู้ที่วางแผนการอพยพย้ายถิ่นในอนาคต เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ในออสเตรเลีย

“มันได้ส่งสัญญาณสำคัญออกไปยังผู้ที่จะอพยพย้ายถิ่น และว่าที่พลเมืองออสเตรเลียในอนาคตว่า เราคือประเทศที่จะทำทุกอย่างบนความยากลำบากของผู้อพยพย้ายถิ่น” นายอัล-คาฟาจี กล่าว

ด้านหน่วยงานบริการสังคมออสเตรเลีย ได้กล่าวต่อคณะกรรมการรัฐสภาในที่ประชุมหารือว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น มุ่งเน้นไปที่การลดระยะเวลารอรับเงินสวัสดิการที่ไม่มีความสม่ำเสมอ

นายแมทธิว ฟลาเวล (Matthew Flavel) รักษาการเลขาธิการ หน่วยงานบริการสังคมออสเตรเลีย ได้ปฏิเสธว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการเหลียวแลมากขึ้น

“สิทธิประโยชน์พิเศษ (The Special Benefit) เงินช่วยเหลือสำหรับผู้ประสบความเดือดร้อนทางการเงินเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับ มีขึ้นเพื่อรับรู้ถึงสถานการณ์เฉพาะต่าง ๆ ที่อาจทำให้สถานภาพของผู้คนต้องเปลี่ยนไป เช่น เมื่อมีความรับผิดชอบในการดูแลเลี้ยงดูเพิ่มขึ้นมา” นายฟลาเวล กล่าว

นายฟลาเวล กล่าวอีกว่า หน่วยงานบริการสังคมออสเตรเลีย “ไม่ทราบถึงหลักฐานที่มีความเจาะจง ว่ามาตรการเพิ่มระยะเวลารอรับเงินสวัสดิการของรัฐเพียงอย่างเดียว จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงทั้งในบ้านและครอบครัวได้"


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 15 September 2021 11:14am
Updated 15 September 2021 1:10pm
By Tom Stayner
Presented by Tinrawat Banyat


Share this with family and friends