ฝ่ายค้านพรรคแรงงานได้สัญญาที่จะช่วยเหลือ 100,000 ครัวเรือนให้ซื้อแบตเตอรี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านพลังงานซึ่งตั้งขึ้นอย่างสวนทางกับทางพรรคร่วม ในเรื่องนโยบาบพลังงานที่ส่งผลต่อภูมิอากาศ
หากได้รับเลืองตั้ง พรรคแรงงานจะลงทุนเป็นจำนวน $200 ล้านดอลลาร์ เพื่อจ่ายชดเชยค่าติดตั้งแบตเตอร์รีสำหรับบ้านเรือนไว้ใช้เก็บสะสมพลังงานจากแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์
ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไปพรรคแรงงานจะลดค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการติดตั้งแบตเตอร์รีสำหรับบ้านเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่า $180,000 โดยที่เงินจ่ายคืนอาจมีมูลค่าถึง $2000 ต่อหลัง
โฆษกด้านพลังงานของพรรคแรงงาน นายมาร์ค บัตเลอร์ กล่าวว่า แนวคิดริเริ่มเกี่ยวกับแบตเตอร์รีของพรรคแรงงานนั้นจะช่อยลดแรงกดดันต่อเครือข่ายกระแสไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้งานหนัก
“มันดีเยี่ยมสำหรับครัวเรือนแต่ละหลัง แต่นอกจากนั้น การที่สามารถจะเก็บสะสมพลังงานจากช่วงกลางวันไปใช้เวลาหัวค่ำได้นั้นก็จะเป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับระบบพลังงานโดยรวม” เขากล่าวกับสถานีวิทยุเอบีซีวันนี้
สภาพลังงานชาญฉลาด (The Smart Energy Council) คาดว่า ระบบแบตเตอร์รีใหม่สำหรับครัวเรือนเหล่านี้ ซึ่งจะเชื่อมโยงเข้ากับแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ จะช่วยให้บ้านเรือนประหยัดพลังงานลงได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ จากใบเรียกเก็บเงินของพวกเขาและยังจะลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับชาวออสเตรเลียคนอื่นๆ โดยการลดความต้องการกระแสไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้งานหนัก ลงภายในเครือข่ายจ่ายไฟฟ้า และช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับเครือข่ายมากขึ้น
Bill Shorten says backing the installation of more household battery systems helps lower power costs. Source: AAP
พลังงานจะเป็นสมรภูมิรบของการเลือกตั้ง
การประกาศนโนบายดังกล่าวของพรรคแรงงาน เป็นการจัดตั้งสนามรบหลักๆ ของการเลือกตั้งในเรื่องภูมิอากาศและพลังงาน ก่อนการเข้าลงแข่งขันในปี ค.ศ. 2019
ในขณะที่ทางพรรคร่วมนั้นได้สัญญาว่า(รัฐบาล)จะรับประกันเงินกู้สำหรับโครงการพลังงานใหม่ๆ นโยบายของพรรคแรงงานนั้นจะเพิกเฉยต่อการลงทุนในถ่านหิน
ผู้นำพรรคแรงงาน นายบิล ชอร์ทเทนได้เคยเสนอให้มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่ายในเรื่องการประกันพลังงานแห่งชาติต่ออดีตนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ อย่างไรก็ตามเขาได้เรียกร้องว่าเป้าของการลดการปลดปล่อยมลภาวะนั้นไม่เพียงพอ
พรรคแรงงานได้ให้สัญญามาเป็นเวลายาวนานแล้ว ที่จะลดการปลดปล่อยมลภาวะลง 45 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ภายในปี 2030 จากระดับเมื่อปี 2005
การประกันพลังงานแห่งชาติได้ล่มสลายลงในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเทิร์นบูลล์ โดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมภายในพรรคนั้นไม่พอใจต่อเป้าต่างๆ ของการลดการปลดปล่อยมลภาวะ
นโยบายดังกล่าวจะยังใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวน $10 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลาสี่ปีเพื่อเร่งรัดโครงการตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอร์รี ของผู้ตรวจการด้านพลังงานสะอาด และอีก $10 ล้านดอลลาร์ให้กับการอบรมเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานสะอาด
พรรคแรงงานยังมีโครงการในอนาคตเพื่อใช้จ่ายกว่า $100 ล้านดอลลาร์ ต่อโครงการที่จะทำให้ผู้เช่าที่พักอาศัยและผู้ที่อยู่ในบ้านพักสังคมสงเคราะห์ได้รับผลประโยชน์จากพลังงานที่ราคาถูกลงและถูกชดเชยใหม่ได้
โดยเงินทุนจะมอบให้กับศูนย์ผลิตพลังงานของชุมชนเช่นสวนแผงโซลาร์บนหลังคาของอาคารอพาร์ตเมนต์ หรือ ฟาร์มกังหันลมของชุมชน
ผู้นำฝ่ายค้านนายบิล ชอร์ทเทน กล่าวว่า การสนับสนุนการติดตั้งระบบแบตเตอรีในครัวเรือนให้เพิ่มมากขึ้นนั้น เป็น “เรื่องใหญ่เรื่องต่อไป (the next big thing)” ในการให้ความช่วยเหลือครอบครัวเพื่อควบคุมค่าพลังงานของพวกเขาให้ลดต่ำลง
“เรื่องนี้ดีต่อผู้บริโภค - จะเป็นการให้พวกเขาสามารถควบคุมใบเรียกเก็บค่าพลังงานของพวกเขาได้มากขึ้น ช่วยให้พวกเขาตัดค่ากระแสไฟฟ้าลง และลดราคาพลังงาน และปรับปรุงความน่าเชื่อถือของระบบให้กับชาวออสเตรเลียทุกคน จากการลดความต้องการใช้พลังงานในเครือข่ายลงในช่วงเวลาที่มีการใช้งานหนัก (peak hours)
นายชอร์ทเทนกล่าวว่า แผนการดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยให้พรรคแรงงานบรรลุเป้าหมายที่จะให้ 50 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานของประเทศนั้นมาจากแหล่งพลังงานที่ทดแทนได้ภายในปี 2030
ด้านพรรคร่วมได้โต้แย้งว่า เป้าการลดการปลดปล่อยมลภาวะของพรรคแรงงานที่มีความทะเยอทะยานสูงนั้น จะส่งผลให้ใบเรียกเก็บเงินค่าพลังงานต่อผู้บริโภคนั้นมีราคาสูงขึ้น โดยทางพรรคร่วมได้ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 26 เปอร์เซ็นต์
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
รัฐบาลสั่งทบทวนความมั่นคงพลังงาน หวั่นไม่พอใช้ยามฉุกเฉิน