ทานูชรี แนธ และ โมฮัมมัดฮอสเซน เอสมาลี อาศัยอยู่ในประเทศที่ต่างกันในโลก คุณแนธอาศัยอยู่ที่อินเดีย ส่วนคุณเอสมาลี อยู่ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน
แต่ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้มีกิจวัตรประจำวันที่เหมือนกัน
สิ่งแรกที่พวกเขาทำทุกเช้าคือเข้าไปที่เว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย (Department of Home Affairs) เพื่อดูผลการขอวีซ่านักเรียนของพวกเขา
และทุกเช้าพวกเขาจะได้รับคำตอบที่เหมือนกันคือ "รอการประเมินเพิ่มเติม" ซึ่งชี้ว่าใบสมัครของพวกเขายังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา“ฉันสมัครวีซ่านักเรียนของออสเตรเลียในเดือนมกราคม 2021 และ (สถานะ) ใบสมัครของฉันยังไม่ได้รับการอัปเดตตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021” คุณแนธ บอกกับ เอสบีเอส นิวส์
ทานูชรี แนธ ยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 2021 และยังคงรอการพิจารณาอยู่ Source: Supplied by Tanushree Nath
ที่กรุงเตหะราน คุณเอสมาลี ก็รู้สึกท้อแท้ไม่แพ้กัน
“การรอคอยเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดในโลก” เขากล่าวกับ เอสบีเอส นิวส์
'มันน่าโมโหเป็นอย่างยิ่ง'
มีคนอื่นเช่นกันที่มีประสบการณ์เช่นเดียวกับทั้งสอง
ณ วันที่ 30 มิถุนายน มีใบสมัครขอวีซ่านักเรียนจากนอกประเทศกว่า 74,700 ใบ และมีใบสมัครขอวีซ่านักเรียนจากภายในออสเตรเลียอีกกว่า 69,700 ใบ ที่กำลังรอการดำเนินการจากกระทรวง
ในบรรดาใบสมัครขอวีซ่าจากนอกประเทศเหล่านั้น มีใบสมัครกว่า 650 ใบที่ถูกยื่นเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว
นายนิก แมกคิม วุฒิสมาชิกแทสเมเนียและโฆษกด้านการตรวจคนเข้าเมืองของพรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า กล่าวว่า
“เป็นเรื่องที่น่าโมโหอย่างยิ่งที่ผู้คนต้องรอนานกว่า 18 เดือน – และในบางกรณีก็หลายปีกว่าจะได้รับคำตอบจากกระทรวง” วุฒิสมาชิกแมกคิม กล่าว
ในการสมัครขอวีซ่าจากนอกประเทศ ที่กำลังรอการดำเนินการจากกระทรวงนั้น มีราวร้อยละ 31 ที่ใบสมัครมีอายุมากกว่าสองเดือน
“สองเดือนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ผู้คนที่จะต้องรอ แต่เมื่อมันเริ่มเกินกว่าสองเดือน มันกลายเป็นไม่สมเหตุสมผล” วุฒิสมาชิกแมกคิม กล่าว
สาเหตุของความล่าช้า
ในแถลงการณ์ถึงเอสบีเอส นิวส์ กระทรวงมหาดไทยได้เน้นถึงปัจจัยหลายประการที่อาจนำไปสู่ความล่าช้าในการดำเนินการพิจารณาวีซ่า
“ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองทุกคนที่ยื่นขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศออสเตรเลียนั้นได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคล และพิจารณาตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่กำหนดไว้ในกฎหมายการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย” โฆษกของกระทรวงกล่าว
“นี่มักรวมถึงข้อกำหนดที่ผู้สมัครทุกคนดำเนินการและมีคุณสมบัติตรง (ในส่วนที่เกี่ยวข้อง) ตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความประพฤติ และการตรวจสอบด้านความมั่นคงของชาติ ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานอื่น และนั่นอาจต้องใช้เวลา”แต่วุฒิสมาชิกแมกคิม กล่าวว่าเหตุผลของกระทรวง ไม่สมเหตุสมผลสำหรับการต้องรอคอย 18 เดือน
นายนิก แมกคิม วุฒิสมาชิกแทสเมเนียและโฆษกด้านการตรวจคนเข้าเมืองของพรรคฝ่ายค้าน Source: AAP / Likas Cock
“การพิจารณาวีซ่าต้องใช้เวลาพอสมควร แต่มีตัวอย่างมากเกินไปแล้ว … ที่ผู้คนต้องรอนานเกินไปกว่าใบสมัครขอวีซ่าของพวกเขาจะได้รับการพิจารณา” วุฒิสมาชิกแมกคิม กล่าว
“ถ้ากระทรวงจะปฏิเสธ ก็บอกปฏิเสธให้เร็วๆ ผู้คนจะได้วางแผน จะได้ก้าวต่อไปในชีวิตของพวกเขา และเตรียมการอย่างอื่นเพื่อไปศึกษาต่อในประเทศอื่น”
ออสเตรเลียยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่พึงปรารถนาสำหรับนักเรียนต่างชาติอยู่หรือไม่?
ความล่าช้าในการดำเนินการพิจารณาวีซ่ายังส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของออสเตรเลียอีกด้วย
คุณแนธกล่าวว่า เมื่อเธอพูดถึงความล่าช้าของวีซ่ากับเพื่อนๆ และครอบครัวของเธอในอินเดีย “คำตอบเดียวที่พวกเขาบอกกับฉันคือ ‘คุณไม่ควรสมัครเพื่อจะไปที่นั่นเลย'”
“และพวกเขาบอกว่า ถ้ามีคนที่พวกเขารู้จักต้องการยื่นใบสมัครในอนาคต พวกเขาจะเล่าเรื่องของฉันให้ฟังและเตือนไม่ให้สมัคร” คุณแนธ กล่าว
“พวกเขาบอกฉันว่าฉันควรจะสมัครไปยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา เพราะการขอวีซ่านั้นง่ายกว่า และถึงแม้จะไม่ง่ายกว่า แต่ก็เร็วกว่า”
“แม้ว่าวีซ่าจะถูกปฏิเสธหรืออนุมัติก็ตาม แต่จะมีการแจ้งภายใน (ระยะเวลาที่เหมาะสม)”
วุฒิสมาชิกแมกคิมกล่าวว่า ชื่อเสียงของออสเตรเลียในหมู่นักศึกษาต่างชาติได้รับผลกระทบในช่วงสองสามปีแรกของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เนื่องจากการปิดพรมแดนของออสเตรเลีย
“และเราจำเป็นต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนจากประเทศอื่นๆ มาที่นี่เพื่อศึกษาเล่าเรียน และทำให้แน่ใจว่าชื่อเสียงของเราจะไม่เสียหายไปมากกว่านี้ และเราเริ่มกอบกู้ชื่อเสียงของเราด้วย” วุฒิสมาชิกแมกคิม กล่าว
แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร?
“ประการแรก รัฐมนตรีคนใหม่ (ด้านการย้ายถิ่นฐาน คือนาย แอนดรูว์ ไจล์ส) จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องความคาดหวังของเขาให้ชัดเจนว่า พวกเขาจะต้องดำเนินการพิจารณาใบสมัครเหล่านี้ โดยไม่เพียงต้องทำอย่างเป็นธรรมเท่านั้น แต่จะต้องทำภายในกรอบเวลาที่เหมาะสมด้วย” วุฒิสมาชิกแมคคิม กล่าว
“เขาควรจะกำหนดกรอบเวลาที่เหมาะสมและกำหนดให้กระทรวงต้องปฏิบัติให้ได้ตามกรอบเวลาเหล่านั้น”
“ประการที่สอง เขาต้องพร้อมที่จะจัดสรรทรัพยากรให้เพิ่มเติม ทั้งด้านการเงินและทรัพยากรมนุษย์ ให้กับแผนกดำเนินการพิจารณาวีซ่าของกระทรวง เพราะนั่นยังดีไม่พอ จนทำให้นักเรียนต้องพลาดโอกาส (ทางการศึกษาในออสเตรเลีย)”
เอสบีเอส นิวส์ ได้ติดต่อนายแอนดรูว์ ไจล์ส รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย เพื่อขอความคิดเห็นในเรื่องนี้
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รอคืนเงินวีซ่าหลายพันคน บ่น ‘สัญญาไม่เป็นสัญญา’