เมื่ออายุเหยียบ 50 ปี เพื่อนๆ ของดิฉันยังสวย มีชีวิตชีวา ฉลาด โอบอ้อมอารี และหลักแหลม โดยไม่มีร่องรอยของผมหงอกผมเทาให้เห็นแม้แต่น้อย พวกเรากำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการมีวินัยในความก้าวหน้าทางอาชีพของพวกเรา
แต่ทว่าเวลาพวกเราคุยกันทีไรก็มีสิ่งนี้ที่จะต้องจัดใหญ่กันทุกที ราวกับคลื่นที่ซัดผ่านไปผ่านมาอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาไม่ยอมไปไหน
มันจะเป็นเรื่องอะไรไปได้ล่ะ?
โอ๊ย มันไม่ใช่เรื่องอะไรเลย ก็แค่เรื่องงานบ้าน
มันคือ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือเรื่องงานบ้าน*
มันคือการติดหล่มอันท่วมท้นของสิ่งที่ต้องซัก หยิบจับขึ้นมา จัดเก็บให้เป็นระเบียบ ล้างให้สะอาด ปัดฝุ่น รีดผ้า แล้วก็ซักล้างอีกรอบ มันเหมือนคลื่นที่ถาโถมเข้ามาจากรอบๆ ด้าน และอัศวินขี่ม้าขาวที่จิตใจดีงามดั่งทองแท้นั้นก็หายหัวกันไปหมด
อัศวินขี่ม้าขาวที่จิตใจดีงามดั่งทองแท้นั้นก็หายหัวกันไปหมด คือเขายุ่งกันอยู่น่ะ คุณไม่รู้เหรอ
มีบทความด้านสังคม-การเมืองเป็นจำนวนมากซึ่งเต็มได้ด้วยสถิติต่างๆ และการวิเคราะห์เกี่ยวกับพลังอำนาจเมื่อผู้ชายเป็นใหญ่ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแรงงานสตรีทั้งทางอารมณ์และจิตใจที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่สิ่งที่ดิฉันอยากจะขอพูดขณะนี้ก็คือความท้อแท้ค่ะ - เป็นความเศร้าใจอย่างสุดซึ่งที่บดขยี้จิตวิญญาณได้เลยทีเดียว
มันคือความท้อแท้ ที่ทำให้เรารู้สึกท่วมท้น ว่า ‘ฉันแก่ตัวลงเรื่อยๆ และฉันก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว’ ‘ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว’ และที่ีพบมากขึ้นเรื่อยๆ ‘ฉันโกรธเกินไป’
ความสัมพันธ์ต่างๆ ที่ได้เลี้ยงดูลูกๆ จนเติบโตขึ้นมานั้นเริ่มระหองระแหง สิ่งที่จะเข้ามาแทนที่ก็คือความเบื่อหน้า
นี่เป็นเรื่องราวที่คุยกันโดยเฉพาะเจาะจงเพศ ครอบครัวแบบเพศเดียวกันนั้นก็จะมีเรื่องราวที่แตกต่างออกไป และดิฉันก็ไม่มีหลักฐานหรือประสบการณ์ส่วนตัวเพียงพอแม้แต่จะสามารถทำการสังเกตในเชิงปริมาณได้
มันคือความท้อแท้ ที่ทำให้เรารู้สึกท่วมท้น ว่า ‘ฉันแก่ตัวลงเรื่อยๆ และฉันก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว’ ‘ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว’ และที่ีพบมากขึ้นเรื่อยๆ ‘ฉันโกรธเกินไป’
ดังนั้น จะขออนุญาตอยู่ในประเด็นระหว่างผู้หญิงและผู้ชายนะคะ สิ่งที่ดิฉันได้เห็น และเพื่อนของดิฉันก็เห็นเพื่อนๆ ของพวกเขา และเหล่าผู้หญิงคนทำงานเป็นพันๆ คนในกลุ่มแชทออนไลน์ต่างๆ ที่ดิฉันเป็นสมาชิกอยู่ก็เห็น ก็คือการคลืบคลานเข้ามาของจุดจบของความสัมพันธ์ที่มีมายาวนาน 10- 20- 30ปี เหล่านี้
ในตอนแรก ความสัมพันธ์เหล่านี้เริ่มต้นอย่างน่าตื่นเต้น โดนที่เซ็กส์ ความรัก และความโรแมนติกนั้นมีอยู่อย่างดาษดื่นฟรีๆ แล้วลูกรักทั้งหลายก็คลอดออกมา แล้วโดยรวมๆ ผู้หญิงก็จะเดินหน้าเต็มที่เพื่อดูแลพวกเขาพวกเธออยู่บ้านเพื่อที่จะได้ทำการเก็บกวาด จับจ่ายและทำกับข้าว และคอยทำความสะอาดตามหลังเด็กๆ ซึ่งก็ไม่มีวันจบวันสิ้น เส้นทางอาชีพของพวกเธอหยุดชะงักลง แล้วก็ค่อยเริ่มขึ้นใหม่
สิ่งที่พวกเธอต้องการนั้นคือต้นแบบของความสุภาพ และการแบ่งปันภาระ และการคอยอยู่เป็นเพื่อนกันข้างๆ กัน (@rawpixel via Unsplash) Source: @rawpixel via Unsplash
ทว่าสิ่งที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเด็กๆ นั้นยังเล็กอยู่และเมื่อพวกเธอนั้นก็ยังอบอุ่นอยู่กับความรักจนลืมที่จะสังเกตเห็น มันได้กลายเป็นกิจวัตรไปเสียแล้ว
การอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจึงได้เริ่มขึ้นในช่วงนั้น เหล่าผู้หญิงที่ดูดิบโทรมจากความเหนื่อยล้า ขี้บ่น โกรธง่าย อาจถูกมองผ่านๆ ว่าแค่เหนื่อยเกินไปหรือไม่สมเหตุสมผล
การอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจึงได้เริ่มขึ้นในช่วงนั้น เหล่าผู้หญิงที่ดูดิบโทรมจากความเหนื่อยล้า ขี้บ่น โกรธง่าย อาจถูกมองผ่านๆ ว่าแค่เหนื่อยเกินไปหรือไม่สมเหตุสมผล หากว่าช่วยนิดๆ หน่อยๆ ก็อาจทำให้อะไรต่ออะไรเงียบลงได้สักนิด แต่ทว่าปัญหาก็กลับมาอีกจนได้
และในขณะนี้ เหล่าสามีหรือคู่ครองก็กำลังยุ่งวุ่นวาย พวกเขากำลังใช้ความพยาพยายามในด้านการเรียนศึกษา ดนตรี หรือการไปบรรลุทางจิตวิญญาณ เล่นกีฬาโต้คลื่น กอล์ฟ หรือกำลังนั่งดื่มอยู่ที่ร้านเหล้า
ทั่วๆ ไปนั้นพวกเขาจะไม่ได้ค่าจ้าง แต่มันเป็น ‘การขอเวลานอก’ ของพวกเขา พวกเขาจะไม่อยู่บ้านเพื่อคอยอยู่เป็นเพื่อนหรือคอยช่วยเหลือ แต่หากพวกเขาอยู่ล่ะก็ พวกเขาก็จะถูกขอเป็นปีที่ 25 ติดต่อกันแล้วให้ช่วยแบ่งเบาภาระ ซึ่งพวกเขาก็จะหน้าเป็นตูด หงุดหงิด เริ่มร้าย และต่อล้อต่อเถียง
ใช่ แม้กระทั่งผู้ชายนิสัยดีๆ ก็มองไม่เห็นสิ่งนี้
ดังนั้นสิ่งที่ดิฉันเห็นก็คือ สตรีวัยกลางคนที่ร้องห่มร้องไห้ การมีเพศสัมพันธ์นั้นขาดสเน่ห์ใดๆ และจิตใจที่เคยเชื่อมโยงกันก็กลับกลายเป็นแปลกหน้า
การจู้จี้ซึ่งพวกเขานั้นเกลียด ได้ทำให้ความลึกซึ้งของความสัมพันธ์นั้นสลายไป และการเบื่อหน้ากันนั้นก็เกิดขึ้นได้กับทั้งสองฝ่าย - เธอนั้นจู้จี้ขี้บ่นราวกับแม่มด และเขานั้นก็ช่างเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
พวกผู้หญิงเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ลูกๆ เจริญรอยตามพ่อของพวกเขา และเล่าถึงการทะเลาะเบาะแว้งกันที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกผู้ชายก็หาข้อแก้ตัว
ก็ในเมื่อมันคือพวกเธอเองซึ่งต้องการผ้าปูเตียงที่สะอาดและพื้นบ้านที่สามารถเดินแล้วเท้าไม่เหนียวติด มันก็จึงเป็นหน้าที่ของพวกเธอที่ต้องทำสิ
ซึ่งพวกเธอก็จะรู้สึกอับอาย และฉันเองก็งงจนพูดไม่ออก
ฉันว่าจะเสนอข้อแนะนำต่างๆให้ แต่ทว่าข้อแก้ตัวเหล่านั้นก็ผุดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า ดวงตาของพวกเธอนั้นก็เศร้าหมองลงเรื่อยๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ พวกเธอรู้ดี พวกเธอไม่ชอบผู้ชายของพวกเธออีกต่อไป - พวกเธออยู่เพราะว่าลูกๆ และเพราะว่าพวกเธอนั้นเหนื่อยเกินไปที่จะเดินหันหลังออก
สิ่งที่พวกเธอต้องการนั้นคือต้นแบบของความสุภาพ และการแบ่งปันภาระ และการคอยอยู่เป็นเพื่อนกันข้างๆ
สิ่งที่พวกเธอต้องการนั้นคือต้นแบบของความสุภาพ และการแบ่งปันภาระ และการคอยอยู่เป็นเพื่อนกันข้างๆ แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว พวกเขาหมดความรักอีกต่อไป และเด็กๆ ก็เกือบจะเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว
เพราะฉะนั้น คุณผู้ชาย คุณผู้ชายที่รักทั้งหลาย พายุฝนตั้งเค้ามาให้เห็นแต่ไกลแล้วค่ะ
คุณอาจต้องเลิกอะไรบางอย่างเพื่อให้เวลาส่วนหนึ่งกับคู่ครองของคุณ คุณอาจต้องตระหนักว่าการพัฒนาตนเองนั้นเริ่มต้นที่บ้าน คุณอาจต้องจดรายการว่าต้องทำอะไรบ้างแล้วก็ทำตามที่สัญญานั้นให้ได้ - ทุกวัน
คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแปลง - จากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
และคุณอาจจะพลาดระยะเวลาสิบปีที่จะได้ออกกำลังกาย คุณอาจจะพลาดกระแสอะไรต่างๆ ไปเกือบหมด เหมือนตอนนี้คุณอยู่ในเครื่องซักผ้า ชีวิตของคุณกำลังจะตีลังกากลับตาลปัตร และแทบไม่ต้องบอกเลยว่าคุณนั้นต้องลงมือทำมันทั้งหมดเพียงคนเดียว ในขณะที่คุณนั้นแก่ตัวลงและก็มีสเน่ห์น้อยลง ดังนั้น ขอให้ผู้หญิงให้อภัย แล้วก็จงลุกขึ้นมาทำ
ทำตอนนี้เลย แล้วก็ทำให้ดีด้วย
*#notallmen (ไม่ใช่ผู้ชายทุกคน) #notmyman (ไม่ใช่ผู้ชายของฉัน) และ #notmyson (ไม่ใช่ลูกชายของฉัน) และก็อาจจะไม่ใช่คุณหรือสามีของคุณ แต่ว่า #mostmen (ผู้ชายส่วนใหญ่ทีเดียว)
รายการ Is Australia Sexist (ประเทศออสเตรเลียเหยียดเพศหรือไม่) จะเริ่มออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ เอสบีเอส ออสเตรเลีย ในวันที่ 4 ธันวาคม นี้เวลา 20:40 น. แล้วหลังจากนั้นจะสามารถสตรีมชมได้ทาง เอสบีเอสออนดีมานด์
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอสไทย
อยู่ด้วยใจไม่ไร้บ้าน