เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทั่วโลกเนื่องจากการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา ส่งผลให้มีชาวออสเตรเลียจำนวนมากขึ้นต้องหันหน้าเข้าหาเงินสวัสดิการสังคมเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถจ่ายค่าเช่าและซื้อสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นได้
การตอบสนองกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาลสหพันธรัฐได้ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงเงินสวัสดิการง่ายขึ้น โดยการออกสิทธิประโยชน์ใหม่ เพิ่มอัตราการจ่ายเงินสำหรับที่เงินช่วยเหลือมีอยู่ก่อนแล้ว และขยายเกณฑ์การมีสิทธิ์รับเงินสวัสดิการ
มาตรการใหม่เหล่านี้เป็นอย่างไร และใครบ้างที่มีสิทธิ์รับเงินสวัสดิการ
เงินจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper payment)
เงินจ๊อบคีพเปอร์ คือโครงการให้เงินชดเชยค่าจ้าง ด้วยงบประมาณ 130,000 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลสหพันธรัฐบอกว่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้างในออสเตรเลียราว 6 ล้านคน เป็นระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า
อย่าสับสน คิดว่านี่คือเงินจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker payment) ซึ่งเดิมเคยเรียกว่าเงินนิวสตาร์ท (Newstart) สำหรับผู้ที่ตกงานอยู่แล้วก่อนการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
โดยสวัสดิการเงินจ๊อบคีพเปอร์นี้จะให้แก่ลูกจ้างที่ต้องเผชิญกับการตกงานหรือถูกให้ออกจากงานไปแล้ว เนื่องจากนายจ้างของพวกเขาได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่าน
โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรดานายจ้างเก็บลูกจ้างเหล่านั้นไว้ในระบบของบริษัทต่อไป และให้ลูกจ้างฟูลไทม์ได้กลับเข้าทำงานต่อเมื่อข้อจำกัดต่างๆ ถูกยกเลิกไปแล้ว
โครงการดังกล่าวจะให้เงินชดเชยค่าจ้างแก่ธุรกิจที่มีสิทธิ์ จำนวน 1,500 ดอลลาร์ ต่อ 2 สัปดาห์ ต่อลูกจ้างแต่ละคน
เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือ ที่รัฐบาลสหพันธรัฐบอกว่าเทียบเท่ากับราวร้อยละ 70 ของค่าจ้างมัธยฐาน (median wage) ทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะต้องมีคุณสมบัติที่ตรงตามเกณฑ์
- ธุรกิจต่างๆ จะมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือนี้หากพวกเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่ารายได้ลดลงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจที่มีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ต้องพิสูจน์ว่ารายได้ของพวกเขาลดลงไปมากกว่าร้อยละ 50
- ลูกจ้างที่มีสิทธิ์ ได้แก่ ลูกจ้างฟูลไทม์และพาร์ทไทม์ เช่นเดียวกันกับผู้ประกอบกิจการเจ้าของคนเดียว (sole trader) โดยลูกจ้างที่ตกงานจากธุรกิจที่ปิดตัวลงเนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะยังคงได้รับเงินต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำงานก็ตาม
จากการประกาศเมื่อบ่ายวันอังคาร (31 มี.ค.) ลูกจ้างแคชวลจะมีสิทธิ์รับเงินชดเชยค่าจ้างนี้ หากพวกเขาทำงานในตำแหน่งเดียวกันมานานกว่า 12 เดือน มีการเรียกร้องให้ขยายคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ ให้รวมไปถึงผู้ถือวีซ่าชั่วคราวและลูกจ้างแคชวลทั้งหมดอีกด้วย
จะยังไม่มีการจ่ายเงินชดเชยค่าจ้างนี้จนกว่าจะถึงต้นเดือนพฤษภาคม โดยจะมีการจ่ายเงินชดเชยให้ย้อนหลังไปถึงวันจันทร์ (30 มี.ค.)
ธุรกิจเกือบ 60,000 แห่งได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือนี้แล้วภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังรัฐบาลประกาศเรื่องนี้ออกมาเมื่อบ่ายวันจันทร์
ชาวนิวซีแลนด์ที่ทำงานในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโดยปกติจะไม่ได้เข้าถึงระบบเงินสวัสดิการ ก็มีสิทธิ์ในโครงการนี้เช่นกัน ส่วนผู้ถือวีซ่าชั่วคราวประเภทอื่นๆ ยังไม่มีสิทธิ์ในโครงการนี้ แต่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวเมื่อวันจันทร์ ว่าเรื่องนี้ “อยู่ภายใต้การพิจารณา”เงินช่วยเหลือจากผลของไวรัสโคโรนา
Prime Minister Scott Morrison announces the government's $130b wage subsidy package at a press conference at Parliament House Source: AAP
โครงการจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) คือเงินช่วยเหลือล่าสุดจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาล และได้ออกมาหลังจากที่มีการประกาศเมื่อไปสัปดาห์ที่แล้ว ถึงการจ่ายเงินเพิ่มเติมให้กับผู้ที่ได้รับเงินสวัสดิการอยู่ก่อนแล้ว
เงินช่วยเหลือจากผลของไวรัสโคโรนา (Coronavirus Supplement) นี้มีเป็นเงินจำนวน 550 ดอลลาร์ ต่อ 2 สัปดาห์ และจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนเป็นต้นไป
หลังจากวันนั้น เงินเพิ่มเติมนี้จะถูกจ่ายเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ สำหรับทุกคนที่ได้เงินสวัสดิการดังต่อไปนี้
- เงินจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker payment)
- เงินเบี้ยเลี้ยงเนื่องจากความเจ็บป่วย (Sickness Allowance)
- เงินเบี้ยเลี้ยงเยาวชน (Youth Allowance)
- เงินผู้ปกครอง (Parenting Payment) (ทั้งแบบคู่ครอง และพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว)
- เงินเบี้ยเลี้ยงคู่ครอง (Partner Allowance)
- เงินออสสตัสดี (Austudy)
- เงินแอบสตัสดี (ABSTUDY)
โดยเงินสวัสดิจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker) จะถูกเพิ่มเป็น 2 เท่า ในวันที่ 27 เมษายน โดยผู้รับเงินที่เป็นโสดและไม่มีบุตร จะมีสิทธิ์ได้เงินราว 1,100 ดอลลาร์ ต่อ 2 สัปดาห์
เงินช่วยเหลือจากผลของไวรัสโคโรนา จะไม่รวมไปถึงผู้ที่ได้รับเงินสนับสนุนผู้พิการทุกพลภาพ (Disability Support Pension) หรือเงินเบี้ยเลี้ยงผู้ดูแล (Carer Payment)
เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
เงินสดกระตุ้นเศรษฐกิจ (Economic Support Payment) ที่ปลอดภาษี เป็นเงินที่ที่จ่ายให้เพียงครั้งเดียว 750 ดอลลาร์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลสหพันธรัฐบอกว่า ชาวออสเตรียกว่า 6 ล้านคนจะได้รับเงินนี้
ผู้ที่มีสิทธิ์รับเงินนี้ รวมไปถึงทุกคนที่ได้รับเงินสวัสดิการอยู่ก่อนแล้ว และผู้ที่เพิ่งสมัครขอรับเงินสวัสดิการจากเซ็นเตอร์ลิงค์ หากพวกเขายื่นเรื่องเข้ามาก่อนวันที่ 13 เมษายน
เงินเยียวยาทางเศรษฐกิจ (Economic Support Payment) ดังกล่าว จะถูกจ่ายเข้าบัญชีของผู้รับเงินโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับเงินช่วยเหลือจากผลของไวรัสโคโรนา (Coronavirus Supplement)
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ต่อการจ่ายเงินที่มีอยู่แล้ว
มีการเปลี่ยนแปลงมากมายสำหรับเงินสวัสดิการที่มีอยู่แล้ว เพื่อช่วยบรรดาลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
เช่น การมีสิทธิ์และเกณฑ์คุณสมบัติ ของผู้รับเงินจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker) และเงินเบี้ยเลี้ยงเยาวชน (Youth Allowance) มีเกณฑ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น
หลังจากวันที่ 27 เมษายน เงินช่วยเหลือทั้ง 2 ประเภท จะใช้ได้กับ
- ลูกจ้างประจำที่ถูกพักงาน
- ผู้ประกอบกิจการเจ้าของคนเดียว (sole trader) ผู้ทำธุรกิจส่วนตัว (self-employed) ลูกจ้างแคชวล ที่ปัจจุบันรายได้ลดลงเหลือน้อยกว่า 1,075 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย
- ผู้ดูแลของบุคคลที่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 หรืออยู่ระหว่างการแยกตัวเพื่อกักโรคเนื่องจากได้สัมผัสกับเชื้อ
บุคคลจะไม่สามารถรับทั้งเงินจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) และเงินจ๊อบซีคเกอร์ (JobSeeker) ได้
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์เพดานรายได้สูงสุดที่ประกาศออกมาเมื่อวันจันทร์ หมายความว่า จำนวนเงินที่ผู้รับเงินสวัสดิการจ๊อบซีคเกอร์ได้รับนั้นจะไม่ลดลงนอกเสียจากคู่ครองของพวกเขามีรายได้มากกว่า 79,762 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเพดานรายได้สูงสุดเดิมอยู่ที่ 48,000 ดอลลาร์ต่อปีการประเมินทรัพย์สิน (Asset test) จะถูกงดเว้นให้ชั่วคราวสำหรับการเงินสวัสดิการหลายประเภท เช่นเดียวกับระยะที่ยังไม่มีสิทธิ์รับเงินสวัสดิการของลูกจ้างตามฤดูกาล (Seasonal Workers Preclusion Period) และระยะเวลารอก่อนมีสิทธิรับเงินสวัสดิการของผู้อยู่อาศัยที่เพิ่งเดินทางมาถึง (Newly Arrived Residents Waiting Period)
People are seen queueing outside the Centrelink office in Southport on the Gold Coast. Source: AAP
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจ
เกือบ 6 หมื่นธุรกิจขอรับเงินชดเชยค่าจ้างให้ลูกจ้างจากรัฐบาล