ไฟป่าทั่วนิวเซาท์เวลส์ดับสนิทครั้งแรกในรอบ 8 เดือน

จนท.ดับไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์บันทึกช่วงเวลาสำคัญ หลังไฟป่าทั้งรัฐดับสนิทในวันนี้ นับตั้งแต่เหตุไฟป่าที่หายที่สุดในประวัติศาสตร์เริ่มต้นเมื่อกลางปี 2019

New South Wales experienced 240 consecutive days of bushfire activity this season.

New South Wales experienced 240 consecutive days of bushfire activity this season. Source: NSW Rural Fire Service

หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW Rural Fire Service) ประกาศว่า ไฟป่าที่ลุกไหม้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ทุกจุดดับสนิทแล้ว หลังฤดูกาลไฟป่าที่รุนแรงและยาวนานแบบไม่เคยมีมาก่อนที่กินเวลามากกว่า 240 วันมาตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว 

“ครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 ไม่มีไฟป่าและไฟไหม้หญ้าที่ยังคงลุกไหม้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์” ข้อความพร้อมรูปภาพที่หน่วยงานดับเพลิงในพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์โพสลงเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
นายเชน ฟิซซิมมอนส์ ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า เขารู้สึกโล่งใจหลังที่ได้ทราบว่า มีกลุ่มฝนที่สำนักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะตกลงมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์บรรเทาลงต่อไปอีก

“เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นกลุ่มฝนที่จะตกลงมาทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ในสัปดาห์นี้ ข่าวดีสำหรับเกษตรกร ชุมชนและคนทำงานในพื้นที่ส่วนภูมิภาค เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่ยังคงทำงานอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ” นายฟิซซิมมอนส์โพสลงในทวิตเตอร์
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้แสดงความขอบคุณ โดยการจัดทำป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ บริเวณจัตุรัสไทม์สแควร์ ในนครนิวยอร์ก 

“ขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงผู้กล้าทั้งในออสเตรเลียและสหรัฐฯ ที่ช่วยปกป้องออสเตรเลียจากไฟป่า และขอบคุณการสนับสนุนจากผู้คนทั่วโลก”

เหตุไฟป่าในฤดูกาลนี้ที่เลวร้ายที่สุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ตั้งแต่มีการบันทึกมา ทำลายบ้านเรือนราว 2,400 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 25 คน มีการจัดพิธีไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากไฟป่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายฟิตซ์ซิมมอนส์ได้กล่าวสรรเสริญอาสาสมัครดับไฟป่า 3 คน ที่เสียชีวิตในเหตุไฟป่าครั้งนี้ ได้แก่ นายเจฟฟรีย์ คีตัน (Jeoffrey Keaton) นายแอนดรูว์ โอ ดไวเออร์ (Andrew O’Dwyer) และนายซามูเอล แมกพอลล์ (Samuel McPaul)

“พวกเขาจากไปในฐานะฮีโร่ผู้ไม่เอาประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ผู้เสียสละชีวิตของตนเพื่อปกป้องชีวิตผู้อื่น” นายฟิตซ์ซิมมอนส์กล่าว

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังกล่าวอีกว่า ผลกระทบจากเหตุไฟป่าในครั้งนี้จะกินเวลายาวนาน
“มันเป็นเรื่องยอมรับได้ที่จะมีอารมณ์ร่วมในเรื่องนี้ เราได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้อย่างแท้จริง ชีวิตของทุกคนที่ประสบกับเหตุไฟป่าในครั้งนี้จะเปลี่ยนไปตลอดกาล” นายฟิตซ์ซิมมอนส์กล่าว 

“เหตุไฟป่าในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มันเป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำของผู้อาศัยอยู่ในชุมชนทั่วรัฐอย่างนาน”
ดร. คาร์ล บราแกนซา (Karl Braganza) หัวหน้าฝ่ายสังเกตการณ์สภาพภูมิอากาศ สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1.4 องศาเซลเซียส ขณะที่ส่วนอื่นของโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1.1 องศาเซลเซียส

“ออสเตรเลียร้อนขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกเล็กน้อย” ดร.บราแกนซากล่าวต่อคณะกรรมการร่างงบประมาณที่กรุงแคนเบอร์รา เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.)

ดร บราแกนซา กล่าวว่า ขณะที่อุณหภูมิในหลายพื้นที่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.4 องศาเซลเซียส ซึ่งได้มีการประมาณไว้ในรายงานฉบับล่าสุด ออสเตรเลียอาจมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉลี่ยมากถึง 4 องศาเซลเซียส 

นายแอนดริว จอห์นสัน หัวหน้าสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งขึ้น ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศที่ก่อนให้เกิดไฟป่านั้นดำเนินต่อไป

ทั้งนี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียยืนยันว่า ฤดูร้อนที่ผ่านมามีอุณหภูมิสูงสุดเป็นอันดับ 2 ตั้งแต่เคยมีการบันทึกมา

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 3 March 2020 3:31pm
Updated 3 March 2020 5:07pm
By SBS News
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS


Share this with family and friends