การให้สัญชาติออสเตรเลียต่ำสุดเป็นประวัติกาล

NEWS: การอนุมัติให้สัญชาติออสเตรเลียลดลงถึงจุดต่ำสุดเกือบเท่าปี 2002-2003 ขณะที่ผู้สมัครขอสัญชาติที่กำลังรออนุมัติมีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติกาล อีกทั้งผู้สมัครต้องรอนานขึ้น กว่าจะได้รับอนุมัติให้สาบานตนเป็นชาวออสเตรเลีย

Australian citizenship

Source: SBS

You can read the full article in English

การมอบสัญชาติออสเตรเลียมีจำนวนต่ำสุดในรอบ 15 ปี ขณะที่จำนวนการสมัครขอสัญชาติซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัตินั้นเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการ ส่งผลให้ผู้อพยพที่ต้องการได้สัญชาติต้องรอคอยนานขึ้นกว่าจะได้รับอนุมัติให้สาบานตนเป็นชาวออสเตรเลียได้

ในปี ค.ศ.2017-2018 จำนวนผู้ได้รับอนุมัติสัญชาติออสเตรเลียตกลงไปอยู่ที่จำนวน 80,562 คน ซึ่งเป็นจำนวนต่ำสุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002-2003 เป็นต้นมา ซึ่งในขณะนั้นมีประชาชนเพียง 79,000 คน ที่ได้รับมอบสัญชาติออสเตรเลีย

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียถูกตำหนิ ว่าการพิจารณาใบสมัครขอสัญชาติออสเตรเลียกำลังคั่งค้างอยู่ถึงกว่า 240,000 กรณี ซึ่งส่งผลให้ผู้สมัครแต่ละคนต้องรอคอยนาน 17-19 เดือน หรือนานกว่านั้น กว่าจะได้รับการอนุมัติ

กระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย เผยกับ เอสบีเอส ปัญจาบี ว่า มีผู้สมัครขอสัญชาติออสเตรเลีย 244,765 คน ที่กำลังรอคอยการพิจารณาอยู่ จากข้อมูลวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2018
Australian citizenship by conferral from 2005-06 to 2017-18.
จำนวนการมอบสัญชาติออสเตรเลียให้แก่ผู้สมัครขอสัญชาติ จากปี 2005-06 ถึงปี 2017-18. ข้อมูลจาก- Government of Australia Source: SBS Punjabi

ความมั่นคงของชาติ

กระทรวงมหาดไทย อธิบายว่าถึงสาเหตุที่ทำให้ระยะเวลารอการพิจารณายาวนาน ก็เนื่องมาจาก การที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติมากขึ้น และการที่กระทรวงพยายามทำให้แน่ใจว่าชาวออสเตรเลียทุกคนมีความปลอดภัย จากการใช้มาตรการตรวจสอบความซื่อสัตย์เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์และประวัติด้านความประพฤติของผู้สมัคร

“มาตรการเหล่านี้ได้ถูกนำเข้ามาใช้เรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2015 และหลังรายงานเจาะลึกเหตุการณ์จับตัวประกันที่ลินด์ต คาเฟ ที่แนะนำให้รัฐบาลประเมินความเสี่ยงของบุคคลในระยะก่อนได้รับวีซ่า หลังได้รับวีซ่าแล้ว และในระยะก่อนได้รับสัญชาติ”  โฆษกของกระทรวงมหาดไทย บอกกับ เอสบีเอส ปัญจาบี

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปว่า การที่มีความต้องการได้รับสัญชาติออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้น และการที่มีกรณีซับซ้อนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณาใบสมัครขอสัญชาติ

ด้านนายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพยายามที่จะเพิ่มทรัพยากรต่างๆ เพื่อทำให้การพิจารณาใบสมัครขอสัญชาติทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

“รัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจที่มีเจ้าหน้าที่ 50 คนจากภายในกระทรวงมหาดไทยเอง เพื่อพิจารณาใบสมัครขอสัญชาติที่มีความซับซ้อนสูงกว่าปกติ และพยายามทำให้แน่ใจได้ว่าเจ้าหน้าที่พิจารณากรณีเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายโคลแมน กล่าวกับเอสบีเอส ปัญจาบี
 David Coleman by SBS
นายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (SBS) Source: SBS
“นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อีก 150 คน ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่พิจารณาใบสมัครขอสัญชาติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และคาดว่าจะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่อีกภายในสิ้นปีนี้” นายโคลแมน ระบุ

รัฐมนตรีด้านการตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ กล่าวต่อไปว่า จากมาตรการเหล่านี้ ส่งผลให้มีการพิจารณาการขอสัญชาติเสร็จสิ้นไปแล้ว 33,800 กรณีในช่วง 3 เดือนแรกของปีการเงินนี้ ซึ่งมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีการ 2017-2018 จำนวน 18,700 กรณี

ข้อเสนอเปลี่ยนแปลงกฎหมายด้านสัญชาติ

การสมัครขอสัญชาติเพิ่มสูงขึ้นจนคั่งค้างในระยะที่เป็นในปัจจุบันกว่า 240,000 กรณี ตั้งแต่มีจำนวนเพียง 81,000 กรณีในเดือนมิถุนายน 2017 หลังรัฐบาลสหพันธรัฐประกาศจะปฏิรูปกฎหมายด้านสัญชาติ โดยเสนอจะเพิ่มข้อกำหนดระยะเวลาที่ต้องอาศัยอยู่ในออสเตรเลียให้นานขึ้น และให้มีการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่แยกออกมาต่างหากเพิ่มเข้าไปอีก

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวถูกเขี่ยตกจากประกาศวาระการประชุมของวุฒิสภา ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังรัฐบาลไม่สามารถเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมได้สำเร็จ

แม้ว่าข้อเสนอแก้ไขกฎหมายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแล้วนี้ จะถูกระบุว่าเป็นวาระหนึ่งที่จะได้รับการเสนอสู่ที่ประชุมรัฐสภาในการประชุมช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ แต่นายโคลแมนบอกกับเอสบีเอส ปัญจาบี ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลรัฐบาลยังคงกำลังได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนขอร่างแก้ไขกฏหมายฉบับนี้

ขณะที่นายนิก แมกคิม โฆษกด้านการตรวจคนเข้าเมืองของพรรคกรีนส์  กล่าวว่า รัฐบาลกำลังใช้ร่างแก้ไขกฎหมายสัญชาตินี้ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองสำหรับรัฐบาล และอ้างว่ารัฐบาลไม่มีจำนวนเสียงพอที่จะผ่านร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ได้ เขาบอกกับเอสบีเอส ปัญจาบี ว่าหากรัฐบาลเลื่อนการอภิปรายร่างแก้ไขกฎหมายนี้ออกไป พรรคกรีนส์จะดำเนินการอีกครั้งที่จะเขี่ยร่างแก้ไขกฎหมายนี้ให้ตกไปจากประกาศวาระการประชุมวุฒิสภา

“พรรคกรีนส์จะไม่นั่งเฉยและปล่อยให้ร่างกฎหมายนี้ยังอยู่ในประกาศวาระการประชุมหากรัฐบาลจะไม่ยกเรื่องนี้มาให้อภิปรายกัน”

“แน่นอนว่า เราจะทำให้เรื่องนี้หลุดจากประกาศวาระการประชุมอีกครั้ง หากเราคิดว่ารัฐบาลกำลังใช้เรื่องนี้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตน” นายนิก แมกคิม ของพรรคกรีนส์ เผย

Share
Published 29 October 2018 10:18am
By Shamsher Kainth
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS Punjabi


Share this with family and friends