เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่กว่า 300 แห่งทั่วออสเตรเลีย นำไปสู่การควบคุมตัวผู้กระทำผิดรวม 224 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกแก๊งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมายและแก๊งมาเฟีย
พร้อมทั้งยึดของกลางยาเสพติดรวมมากกว่า 3.7 ตัน อาวุธ 104 ชิ้น รวมถึงเงินสดและทรัพย์สินมูลค่ารวมเกือบ 45 ล้านดอลลาร์ตลอดแผนปฎิบัติการสืบสวนระยะยาวครั้งใหญ่นี้
“นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ภาคการบังคับใช้กฎหมายของออสเตรเลีย” นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (8 มิ.ย.)
“การดำเนินการของเรา... ทำให้ [ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย] ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งใหญ่ และมีบทบาทหลักในปฏิบัติการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมครั้งนี้”
ภารกิจสืบสวนนานาชาติภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการไอรอนไซด์ (Operation IRONSIDE) นำโดยตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (AFP) ร่วมกับสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) เริ่มปฎิบัติการเมื่อปี 2018 โดยมีเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของออสเตรเลียทั้งระดับรัฐและสหพันธรัฐร่วมปฎิบัติภารกิจมากกว่า 4,000 นาย
ปฏิบัติการไอรอนไซด์ มุ่งเป้าองค์กรอาชญากรรมและแก๊งมอเตอร์ไซด์นอกกฎหมายที่อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมหลายรูปแบบ เช่น นำเข้าและผลิตยาเสพติด ไปจนถึงวางแผนฆาตกรรม ซึ่งเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมในภูมิภาคอื่นของโลก ทั้งอเมริกาใต้ เอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป
เจ้าหน้าที่เผยว่า สมาชิกองค์กรอาชญากรรมใต้ดินเหล่านี้สื่อสารผ่านแอปพลิเคชันเข้ารหัสที่มีชื่อว่า ANoM ตามที่ทางการวางกลยุทธ์ไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถถอดรหัสอ่านข้อความสื่อสารได้แบบเรียลไทม์ นำไปสู่การยับยั้งแผนอาชญากรรมหลายกรณีและติดตามตัวผู้กระทำผิดได้ในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการจับกุมผู้กระทำผิดจากภารกิจที่เกี่ยวข้องกับปฎิบัติการนี้ในอีก 18 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และนิวซีแลนด์
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
VIC ผ่อนคลายข้อจำกัดล็อกดาวน์ตั้งแต่ศุกร์นี้