ประเด็นสำคัญ
- ชาวออสเตรเลียจำนวนมากมีความกังวลเกี่ยวกับสุขอนามัยในสนานที่ทำงาน
- การปฏิบัติตามแนวทางง่าย ๆ ของแผนความปลอดภัย COVID-Safe สามารถช่วยลดความวิตกกังวลในการกลับไปทำงานตามปกติได้
- หน่วยงาน NSW Safe Work แนะนำให้ปฏิบัติขั้นตอนด้านความสะอาดตามปกติ นอกเสียจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้นอีกครั้งในที่ทำงาน
LISTEN TO
Settlement Guide: กลับไปทำงานอย่างปลอดภัยแบบ COVID-Safe
SBS Thai
21/03/202107:59
มีงานวิจัยใหม่ที่เปิดเผยว่า ชาวออสเตรเลียร้อยละ 63 ที่มีความตื่นตัวอย่างมากในการไม่สัมผัสกับพื้นผิวต่าง ๆ เมื่อออกไปนอกบ้าน ขณะที่ประชาชนมากกว่า 1 ใน 4 รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับเชื้อโรค นับตั้งแต่การแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาได้เริ่มต้นขึ้น
คุณรูน โซวันดาห์ล (Rune Sovndahl) ประธานบริหารกลุ่มแฟนแทสติก เซอร์วิเซส (Fantastic Services Group) กล่าวว่า การศึกษาวิจัยของพวกเขาในครั้งนี้นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของชาวออสเตรเลียที่เปลี่ยนไปในแง่ของการทำความสะอาด ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า มีผู้คนในจำนวนค่อนข้างมากที่กังวลกับการกลับไปทำงานตามปกติ ชาวออสเตรเลีย 2 ใน 5 เป็นห่วงเรื่องความสะอาดเมื่อต้องกลับไปทำงาน ขณะที่ประชาชนอีกเกือบ 1 ใน 4 มีภาวะวิตกกังวลกับเรื่องนี้” คุณโซวันดาห์ล กล่าว
“ผู้คนมีความกังวลเมื่อต้องออกไปในที่สาธารณะ แม้ว่าทุกอย่างจะกลับมาเปิดอีกครั้ง และเราทุกคนรู้ดีว่า ผู้คนไม่เคยหวาดกลัวการออกไปข้างนอกมากขนาดนี้มาก่อน”
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
จะไปรับวัคซีนโควิด-19 อย่างไรในออสเตรเลีย
คุณลานา โบกูโนวิช (Lana Bogunovich) ทำงานในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งในย่านซีบีดีของนครซิดนีย์ เธอเล่าว่า หลังจากที่ทำงานจากบ้านเป็นเวลาหลายเดือน เธอรู้สึกกังวลถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นขณะเดินทางกลับไปทำงานตามปกติ รวมถึงการใช้พื้นที่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในพื้นที่สำนักงานเดียวกัน
“ดิฉันรู้สึกปลอดภัยกว่าเมื่ออยู่ที่บ้าน เนื่องจากที่นี่มีผู้คนไม่มาก มีเพียงฉันและคู่ครอง และก็ไม่ต้องกังวงมากนักเวลาต้องสัมผัสพื้นผิวที่มีใครเคยสัมผัสมาก่อน และไม่ต้องกังวลว่าจะมีพื้นที่ส่วนตัวไม่พอ แต่แน่นอนว่าในที่ทำงานนั้นต่างกันมาก เพราะมันเป็นสถานที่ซึ่งรองรับผู้คนเป็นจำนวนมาก” คุณโบกูโนวิช กล่าว
คุณโบกูโนวิช เล่าอีกว่า เมื่อกลับไปทำงานตามปกติแล้ว เธอต้องใช้ความระมัดระวังในการสัมผัสกับพื้นผิวต่าง ๆ รวมถึงระยะห่างระหว่างบุคคลอื่น ๆ รวมถึงต้องล้างมือทันทีเมื่อถึงที่ทำงานหลังจากใช้บริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งตามปกติแล้วไม่ใช่สิ่งที่เธอทำมาก่อน
ความท้าทายที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ทำให้เธอต้องพิจารณาความหมายของสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยใหม่อีกครั้ง
“ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น คือการมีนโยบายที่เข้มงวด อย่างเช่น การกำหนดจำนวนผู้คนที่เข้าร่วมประชุมได้สูงสุดในการประชุมแต่ละครั้ง” คุณโบกูโนวิช กล่าว
เธอกล่าวอีกว่า เธอได้ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงการล้างมือให้สะอาด และใช้แผ่นเช็ดฆ่าเชื้อเพื่อเช็ดโต๊ะทำงานที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
“นอกจากนี้ การใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้ามาในสำนักงาน ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย” คุณโบกูโนวิช กล่าว
คุณจิม เคลลี (Jim Kelly) ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบด้านสุขภาพและความปลอดภัย จากหน่วยงาน Safe Work ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การปรับใช้หลักปฏิบัติง่าย ๆ ตามแผนความปลอดภัย COVID-Safe นั้น สามารถลดความวิตกกังวลในการกลับไปทำงานตามปกติได้
การตรวจวัดอุณหภูมิ จะช่วยให้พนักงานมีความมั่นใจ และมีความสบายใจว่าสถานที่ทำงานของพวกเขานั้นปลอดภัย Source: Getty Images/Luis Alvarez
แผนความปลอดภัย COVID-Safe
- รักษาสุขอนามัยที่ดีสำหรับมือ
- รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล
- สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น
- หลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์ในพื้นที่ปิดมิดชิด
- สร้างเขตพื้นที่จำแนกกลุ่มก้อนคนทำงาน หรือ workforce bubble
- สนับสนุนให้คนทำงานที่มีอาการของไวรัสโควิด-19 ไปรับการตรวจหาเชื้อและอยู่แต่ในบ้าน แม้ว่าจะมีอาการเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ด้าน คุณรูน โซวันดาห์ล จากกลุ่มแฟนแทสติก เซอร์วิเซส เขาได้กระตุ้นให้บรรดานายจ้างมุ่งเน้นการลดการสัมผัสกับพื้นผิวที่ได้รับการสัมผัสบ่อยครั้งในพื้นที่ซึ่งมีผู้คนผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก เช่น ราบจับ ก๊อกน้ำ และสวิตซ์ไฟ
“เมื่อมีประตูที่ต้องใช้งานเป็นประจำ มันอาจคุ้มค่าในการลงทุนติดตั้งอุปกรณ์อย่าง “สวิตช์แบบใช้เท้าเหยียบ” ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถเปิดประตูแบบไม่ต้องใช้มือจับ แบบเดียวกับในห้องครัวเชิงพาณิชย์” คุณโซวันดาห์ล กล่าว
“แนวคิดในการทำให้พื้นที่ซึ่งมีผู้คนผ่านไปมาเป็นจำนวนมากให้ปลอดเชื้อนั้น จะช่วยเหลือผู้คนในการกลับมาทำงานได้อีกครั้ง มีหลายสิ่งซึ่งคุณทำได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างความรู้สึกปลอดภัยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทว่าสร้างความปลอดภัยได้อย่างแท้จริง”
นอกจากการจัดเตรียมเจลล้างมือ แผ่นเช็ดฆ่าเชื้อโรค และโต๊ะทำงานแบบรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลสำหรับพนักงานแล้ว คุณโซวันดาห์ล กล่าวว่า นายจ้างจำนวนมากยังได้ตัดสินใจลงทุนซึ้ออุปกรณ์สำหรับฉีดพ่นฆ่าเชื้อ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ฟ็อกกิ้ง (fogging)
การปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยตามแผน COVID-Safe สามารถช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลในการกลับมาทำงานตามปกติได้ Source: Getty Images/mixetto
แต่เนื่องจากการตอบสนองกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพของออสเตรเลีย คุณจิม เคลลี จากหน่วยงาน Safe Work รัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า การฉีดพ่นละอองเพื่อฆ่าเชื้อนั้น มีความจำเป็นเฉพาะกรณีเกิดการแพร่กระจายของไวรัสภายในสถานที่ทำงานเท่านั้น
“ออสเตรเลียได้จัดการกับความเสี่ยงของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในจุดนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดด้วยวิธีอื่นใดนอกเหนือจากวิธีปกติ จนกว่าจะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อในสถานที่ทำงานอีกครั้ง”
“ถ้าดูจากตอนนี้ที่ยังไม่มีเชื้อเล็ดรอดเข้ามาในสถานที่ทำงาน มันไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่คุณจะเปลี่ยนขั้นตอนการทำความสะอาดตามปกติไปเป็นอย่างอื่น” คุณเคลลี กล่าว
สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมในการลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปที่ 
การทำความสะอาดโดยละเอียด (deep cleaning) เช่น การใช้อุปกรณ์ฉีดพ่นฆ่าเชื้อนั้นไม่มีความจำเป็น นอกจากเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโควิดอีกครั้ง Source: Getty Images/South_agency
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
หัวใจละลายกับอัลปากาสุดน่ารัก
