เย็นวันพรุ่งนี้ (8 พฤษภาคม) สก็อตต์ มอร์ริสัน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย จะยื่นร่างงบประมาณแผ่นดินฉบับที่ 3 ซึ่งล่าสุด มีการเปิดเผยนโยบายและโครงการต่าง ๆ ในร่างงบประมาณฉบับนี้แล้วบางส่วน
SBS Thai รวบรวมนโยบายต่าง ๆ ที่น่าสนใจของร่างจัดสรรงบประมาณฉบับนี้
เรื่องเด่นของแผนการจัดสรรงบประมาณฉบับนี้
- นัยสำคัญ “เศรษฐกิจที่แข็งแรง หมายถึงงบประมาณที่แข็งแกร่ง สร้างงานมากขึ้น พร้อมกับประกันบริการพื้นฐานที่จำเป็น”
- รายได้จากภาษีสหพันธรัฐสูงกว่าเมื่อกลางปีงบประมาณ (ธ.ค.2017) อย่างน้อย 4,500 ล้านดอลลาร์
- การเลือกตั้งสหพันธรัฐจะเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม 2019
ลดอัตราภาษี หวังเพิ่มภาคการใช้จ่าย-อัตราจ้างงาน
ในการลดอัตราภาษีเงินได้ในการจัดสรรงบประมาณฉบับนี้ มุ่งไปที่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง เบื้องต้นมีรายงานว่า จะมีการลดภาษีสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่อยู่ในเกณฑ์รายได้พึงประเมินไม่เกิน 87,000 ดอลลาร์ต่อปี ส่วนผู้มีรายได้สูงกว่าเกณฑ์นี้ก็จะได้รับการปรับเกณฑ์ภาษีเช่นกัน โดยคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
ด้าน มาทิอัส คอร์มันน์ (Marthias Cormann) รัฐมนตรีเศรษฐกิจออสเตรเลียได้ยืนยันนโยบายนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ค.) โดยเขาระบุว่า นโยบายนี้จะเป็นผลดีกับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยคาดว่าจะมีการใช้จ่ายมากขึ้น และเป็นไปได้ว่าอัตราการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ
ตัดงบสนับสนุนมหาฯ ลัย 2 พันล้าน ผู้กู้สินเชื่อการศึกษา HELP จ่ายคืนไวขึ้น
มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียคาดว่า จะมีจำนวนนักศึกษาลงทะเบียนเรียนฝนปีนี้ลดลง 10,000 คน ซึ่งเป็นผลจากการหยุดจ่ายงบประมาณสนับสนุนมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 2 ปี เพื่อลดค่าใช้จ่าย ที่ประกาศโดยรัฐบาลสหพันธรัฐเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยงบประมาณในช่วงเวลาดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ในอัตราเดียวกันกับปี 2017 ไปจนถึงปี 2020 มูลค่ารวม 2 พันล้านดอลลาร์ แต่ Universities Australia ระบุว่า การหยุดจ่ายเงินระยะสั้นนี้จะสร้างความเสียหายให้ระบบเศรษฐกิจถึง 12,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ลดจำนวนนักศึกษาจบใหม่ และลดรายได้รัฐบาลจากภาษี
สำหรับผู้ที่กู้สินเชื่อเพื่อการศึกษา อาจจะต้องจายเงินคืนผ่านระบบภาษีเร็วขึ้น เนื่องจากมีการปรับลดเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำสำหรับอัตราจ่ายคืนสินเชื่ออุดมศึกษา HELP (Higher Education Loan Program - HELP) ผ่านระบบภาษีลงมาเป็น 45,000 ดอลลาร์ต่อปี
Medicare ไม่เก็บเงินเข้ากองทุนผู้ทุพลภาพ ช่วยค่าตรวจโรคเพิ่ม ลดราคายา
ผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ประเมินในการจ่ายภาษี จะไม่ต้องจ่ายเงินเข้าระบบ Medicare เพิ่มอีกร้อยละ 0.5 เพื่อนำเงินเข้าโครงการประกันผู้ทุพพลภาพแห่งชาติ (NDIS) นอกจากนี้ยังมีนโยบายสนับสนุนค่าตรวจโรค เวชภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงบริการด้านสุขภาพใหม่ที่สำคัญดังต่อไปนี้
- สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากด้วย MRI
- ผู้หญิงกว่า 20,000 คนจะได้รับการช่วยเหลือค่าตรวจมะเร็งปากมดลูก 3 มิติ คนละ 200 ดอลลาร์
- จัดโครงการฉีดวัคซีนโรคไอกรนฟรี สำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ งบประมาณ 39.5 ล้านดอลลาร์
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อฝ่อจากไขสันหลัง (Spinal Muscular Athophy - SMA) ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี เบิกยา Spinraza ผ่านโครงการสิทธิประโยชน์เวชภัณฑ์ (PBS) ในราคาที่ถูกลง ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยราคายาจะเหลืออยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์ต่อ 1 ใบสั่งยา (งบประมาณ 241 ล้านดอลลาร์)
- สนับสนุนงบประมาณการทำงานของ Lifeline สายด่วนรับฟังปัญหาส่วนตัว และป้องกันการทำอัตวินิบาตกรรม งบประมาณ 33 ล้านดอลลาร์
- ตั้งหน่วยงานอากาศยานเพื่อการบริการทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยทางจิตที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล งบประมาณ 84 ล้านดอลลาร์
- สนับสนุนงบประมาณการแพทย์สำหรับผู้ดิดยาเสพติด 40 ล้านดอลลาร์
เงินเกษียณ (Superannuation)
มีการกำหนดกฎหมายใหม่เพื่อประกันอัตราภาษี และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเงินเกษียณเพิ่มเติม และขยายจำนวนสูงสุดของสมาชิกผู้จัดการกองทุนเงินเกษียณแบบจัดการด้วยตัวเอง (Self-Managed Super Fund) จาก 4 คน เป็น 6 คน
คุมเข้มบุหรี่เถื่อน คราฟท์เบียร์-สุราชุมชนถูกลง
กองกำลังปกป้องเขตแดนออสเตรเลียตั้งหน่วยงานคุมเข้มเรื่องการนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับรัฐได้ 3,600 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ กรมสรรพากรออสเตรเลียยังมี ข้อกำหนดใหม่สำหรับการได้รับใบอนุญาตสำหรับการนำเข้า และมีอำนาจในการเก็บภาษีอากรบุหรี่ด้วยตัวเอง ในขณะที่มีการลดภาษีสำหรับคราฟท์เบียร์และสุราชุมชน ซึ่งจะทำให้ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกลง
ท่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณสหพันธรัฐ
ได้ทางเว็บไซต์ SBS Thai ()
เรากำลังมีข้อมูลล่าสุดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์มาให้ท่านทราบเป็นระยะๆ
ได้ทางเว็บไซต์ SBS Thai ()
เรากำลังมีข้อมูลล่าสุดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์มาให้ท่านทราบเป็นระยะๆ
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รมต.คลังดับกระแสเรียกร้องเพิ่มเงินช่วยเหลือคนว่างงาน