รัฐวิกตอเรียบันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 725 ราย และผู้เสียชีวิตอีก 15 ราย ซึ่งเป็นวันที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดในรัฐวิกตอเรีย
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า มีผู้ติดเชื้อ 538 ราย เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และอีก 42 รายยังคงต่อสู้กับการติดเชื้ออยู่ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต
หนึ่งในบรรดาผู้เสียชีวิต 15 รายที่พบในวันนี้ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย 30 ปี ชณะที่ผู้เสียชีวิต 12 ราย เชื่อมโยงกับสถานดูแลผู้สูงอายุ
จากตัวเลขของหน่วยงานด้านสาธารณสุขในรัฐบาลสหพันธรัฐระบุว่า ชายวัย 30 ปีคนดังกล่าว เป็นผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดจากไวรัสโควิด-19 ของออสเตรเลียจนถึงขณะนี้
“ผมขอส่งความเสียใจอย่างมากไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหล่านั้น นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราจะให้การสนับสนุนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราจะอยู่เคียงข้างคุณในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้” นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
นายแอนดรูส์ กล่าวว่า การทำศัลยกรรมแบบไม่เร่งด่วนจะถูกระงับไปชั่วคราว ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย ยกเว้นผู้ป่วยประเภท 1 รวมถึงผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเร่งด่วนประเภทที่ 2 ซึ่งมาตรการเดียวกันนี้จะมีผลในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น
“เราไม่อาจปล่อยให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักสุดต้องรอนาน เพราะเราจะให้การรักษากับกรณีที่มีความเหมาะสมและมีความสำคัญ ยกเว้นกรณีที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน” นายแอนดรูส์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป (6 ส.ค.) ลูกจ้างที่ทำงานซึ่งมีความจำเป็นในเมือง จะต้องแสดงใบอนุญาตหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจค้น เพื่อยืนยันว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน
สำหรับคนทำงานบางอาชีพ เช่น พยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถใช้บัตรแสดงตนอย่างเป็นทางการในการยืนยันได้ ขณะที่ผู้ทำงานในอาชีพอื่น ๆ จะต้องขอมีใบอนุญาตทางออนไลน์ซึ่งจะต้องลงชื่อโดยนายจ้างและลูกจ้าง หากธุรกิจใดถูกจับได้ว่าออกไปอนุญาตไม่ตรงตามข้อกำหนด จะมีโทษปรับเป็นจำนวนเงิน $99,123 ดอลลาร์ ขณะที่รายบุคคลจะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน $19,826 ดอลลาร์
สำหรับสถานดูแลเด็กเล็กนั้น ผู้ทำงานซึ่งมีความจำเป็นเท่านั้นที่จะสามารถส่งบุตรหลานของตนเพื่อเข้ารับการดูแล โดยรัฐบาลสหพันธรัฐได้ยืนยันว่า จะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าบริการส่วนหนึ่ง ขณะที่รัฐบาลรัฐวิกตอเรียได้ประกาศว่า จะมีการออกใบอนุญาตสำหรับคนทำงานที่มีความจำเป็น ในการเข้าถึงบริการดูแลบุตร
“จะมีอีกหลายครอบครัวที่จะไม่สามารถเข้าถึงบริการดูแลบุตรได้ตามปกติ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่จะลดการเคลื่อนย้ายผู้คน มันคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง” นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
สำหรับคำแนะนำในการให้ผู้บริการดูแลเด็กไปให้บริการที่บ้านนั้น จะมีการประกาศในช่วงหลังของวันนี้ (5 ส.ค.)
ส่วนสถานการณ์ในสถานดูแลผู้สูงอายุนั้น นางเจนนี มิคาโคส รัฐมนตรีด้านสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เข้ารับการดูแลมากกว่า 300 คน ย้ายออกจากสถานดูแลไปยังโรงพยาบาล
ขณะที่ นายอัลเลน เชง (Allen Cheng) รักษาการในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพ ได้อธิบายในส่วนของการรับผ็สูงอายุจากสถานดูแลว่า ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของทางโรงพยาบาลต่าง ๆ
“มันไม่ใช่ทางเลือกที่หลายคนต้องการ ดังนั้น เมื่อมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นในสถานดูแลผู้สูงอายุ จะมีการประเมินเกี่ยวกับทางเลือกต่าง ๆ ว่าสิ่งใดที่เป็นไปได้” นายเชง รักษาการในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพกล่าว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 ส.ค.) มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียได้ประกาศภาวะภัยพิบัติ (State of Disaster) เช่นเดียวกับการใช้มาตรการจำกัดระดับ 4 ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ของรัฐวิกตอเรียนั้น กำลังเข้าสู่มาตรการจำกัดระดับ 3
ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.
ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จะเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น
ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น
รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้ ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ควีนส์แลนด์ประกาศปิดพรมแดน NSW-ACT เสาร์นี้