สนามบินต่าง ๆ ในออสเตรเลียคาดว่าจะพบกับช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดในรอบ 2 ปี หลังผู้โดยสารหลายพันคนเดินทางเพื่อไปใช้เวลาในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนพนักงาน
ผู้โดยสารได้รับการแจ้งจากสนามบินให้เดินทางมาถึง 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางสำหรับเที่ยวบินในประเทศ โดยสนามบินซิดนีย์ระบุว่า ผู้โดยสารราว 82,000 คนจะต้องผ่านด่านความปลอดภัยและเคาน์เตอร์เช็คอินที่เผชิญกับแรงกดดันจากวิกฤตนี้
ทั้งนี้ สนามบินซิดนีย์ได้พบกับแรงกดดันมาตลอดสัปดาห์นี้เนื่องจากขาดพนักงาน และมีพนักงานที่มาทำงานไม่ได้เนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 ทำให้คิวเช็คอินมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก
“ผมทราบดีว่ามันเป็นสารซึ่งยากที่จะรับฟัง แต่วันพฤหัสบดีนี้จะเป็นวันที่ยากลำบากอีกวันหนึ่งสำหรับนักเดินทาง และผมต้องขออภัยล่วงหน้าไปยังผู้ที่ไม่ได้รับความสะดวกสบาย” จิออฟ คัลเบิร์ท (Jeoff Culbert) ประธานบริหารสนามบินซิดนีย์ กล่าวขณะที่สนามบินอื่น ๆ คาดว่าจะต้องรับมือกับจำนวนผู้โดยสารมากขึ้นในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียน ซึ่งตามมาด้วยวันหยุดยาวช่วงเทศกาลอีสเตอร์ และวันแอนแซคเดย์ (ANZAC Day)
คิวผู้โดยสารจำนวนมาก ในอาคารผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติซิดนีย์ Source: AAP
คาดว่าจะมีผู้เดินทางนับล้านคนผ่านเข้ามายังท่าอากาศยานซิดนีย์ ซึ่งเป็นสนามบินภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุด และเป็นศูนย์กลางของการเดินทางระหว่างประเทศ
ไมเคิล เคน (Michael Cain) เลขาธิการสหภาพแรงงานคมนาคมขนส่ง (TWU) กล่าวว่า พนักงานลำเลียงกระเป๋า พนักงานภาคพื้น และพนักงานรักษาความปลอดภัย กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก หลังพนักงานส่วนสูญเสียตำแหน่งงานตั้งแต่ช่วงแรกของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าจ้างจ๊อบคีปเปอร์ (JobKeeper) ของรัฐบาลสหพันธรัฐ และได้รับการว่าจ้างจากบริษัทต่างชาติ
“นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราพบเห็นการขาดแคลนพนักงานที่นำไปสู่วันแบบนี้ ด้วยภาพความอลหม่านในสนามบินของเรา (ในซิดนีย์)” นายเคน กล่าวกับเอบีซีในวันนี้
ขณะที่เขายอมรับว่า การที่พนักงานไม่มาทำงานเนื่องจากโควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญ เค้าได้กล่าวโทษไปยังรัฐบาลของ สกอตต์ มอร์ริสัน กับการปฏิเสธการจ่ายเงินชดเชยค่าจ้างในโครงการจ๊อบคีปเปอร์ให้กับคนทำงานในสนามบินส่วนใหญ่ และเขายังกล่าวโทษสายการบินต่าง ๆ ที่จ้างให้บริษัทต่างชาติเป็นผู้ว่าจ้างพนักงานภาคพื้น อย่างเช่น พนักงานลำเลียงกระเป๋า รวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยตั้งแต่แรก
“คนทำงาน 2,000 คนเหล่านั้นพร้อมและอยากที่จะกลับมาทำงาน แต่สายการบินควอนตัสไม่นำพวกเขากลับมาทำงาน และในตอนนี้เราก็ได้เห็นการตอบสนองอย่างตื่นตระหนก” นายเคน กล่าว
เขากล่าวอีกว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะดึงคนทำงานกลับมาในอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจาก “ความเสื่อมโทรมของข้อกำหนดและเงื่อนไข...นี่จึงเป็นปัญหาจริง ๆ”
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานคมนาคมขนส่งได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวในอุตสาหกรรมการบิน
ไลเยล สแตรมบิ (Lyell Strambi) ประธานบริหารสนามบินเมลเบิร์น ได้ขอให้ผู้เดินทางอดทนขณะที่อุตสาหกรรมการบินกำลังปรับตัวกับเที่ยวบินต่าง ๆ ที่กลับมาทำการบินอีกครั้ง สืบเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดทางสังคมและการปิดพรมแดนทั่วประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“โควิด-19 สร้างความเสียหายให้กับสายการบินและสนามบินต่าง ๆ และเป็นผลให้คนทำงานทักษะสูงนับพันคนได้รับแจ้งให้หยุดงาน หรือต้องถูกเลิกจ้าง” นายสแตรมบิ กล่าว
“สายการบินต่างๆ รวมถึงซัพพลายเออร์ของพวกเขาตอนนี้กำลังเพิ่มจำนวนคนทำงาน แต่จากลักษณะของงานที่พวกเขาทำมีความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ การจ้างงานและการฝึกอบรมอีกครั้งอาจต้องใช้เวลา”
ทั้งนี้ สนามบินเมลเบิร์นคาดว่าจะมีผู้โดยสารราว 380,000 คนเดินทางมาถึงในช่วง 5 วันข้างหน้า ขณะที่สนามบินแอดิเลดคาดว่าวันนี้จะมีผู้เดินทางมาถึงอาคารผู้โดยสารที่เพิ่งมีการขยายต่อเติมราว 25,000 คน เช่นเดียวกับในวันศุกร์พรุ่งนี้ ส่วนสนามบินบริสเบนคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาในวันนี้ราว 50,000 คน
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
นายกฯ มอร์ริสันส่งสารสงกรานต์ 2022 ถึงชุมชนไทย