20 ม.ค. นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ประกาศหลังการประชุมคณะผู้นำรัฐและมณฑลว่า รัฐและมณฑลต่าง ๆ จะเป็นผู้ประกาศแผนเปิดสถานศึกษาให้ครูและนักเรียนกลับไปทำการเรียนการสอนตามปกติ
การประกาศของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เกิดขึ้นหลังครูอาจารย์และผู้ปกครองบางส่วน แสดงความกังวลเกี่ยวกับการกลับไปเรียนตามปกติในชั้นเรียน ขณะที่ออสเตรเลียมีเด็กในช่วงอายุระหว่าง 5-11 ปีเพียงร้อยละ 21.6 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว 1 โดส
ในขณะเดียวกัน ออสเตรเลียมีเด็กอายุระหว่าง 12-15 ปี ในอัตราร้อยละ 82.1 ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 1 โดส และอีกร้อยละ 75.4 ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีข้อกำหนดให้เด็ก ๆ ต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดสเพื่อเปิดสถานศึกษาอีกครั้ง
“รัฐบาลไม่มีคำแนะนำที่ระบุว่าสถานศึกษาไม่ควรเปิดหากเด็ก ๆ ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ไม่มีการจัดตั้งหลักเกณฑ์ข้อนี้ขึ้นมาเป็นเงื่อนไข” นายมอร์ริสัน กล่าว
"การมี 2 คำจำกัดความในกรอบเวลาช่วงเปิดเทอมเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล และไม่ได้เป็นสิ่งที่ขัดขวางการเปิดโรงเรียน”
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า ทันทีที่สถานศึกษามีข้อกำหนดให้โรงเรียนหรือศูนย์การเรียนรู้เด็กปฐมวัยต้องใช้ชุดตรวจแอนติเจนแบบทราบผลเร็ว (RAT) รัฐบาลเครือจักรภพจะให้ความช่วยเหลือกับรัฐและมณฑลต่าง ๆ ในอัตรา 50:50
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียระบุอีกว่า จะไม่มีการขยายคำจำกัดความว่า “ผู้สัมผัสใกล้ชิด” ซึ่งเดิมทีหมายถึงการสัมผัสกับผู้ที่ได้รับผลการตรวจหาโควิดเป็นบวกจากครัวเรือนเดียวกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ให้ครอบคลุมไปถึงการสัมผัสเชื้อจากในอาคารหรือพื้นที่ของสถานศึกษา
“หากคุณป่วย คุณไม่ควรมาโรงเรียน” ศาสตราจารย์พอล เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เคลลีตระหนักว่า ถึงแม้การเจ็บป่วยจากโควิดในเด็กจะมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงที่นักเรียนจะติดเชื้อและนำไวรัสโควิด-19 กลับไปติดที่บ้านได้
“เพื่อให้พวกเขาอยู่โรงเรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันมีสิ่งที่เป็นข้อแลกเปลี่ยนในวันนี้ ในแง่ของการแพร่กระจายเชื้อ” ศาสตราจารย์เคลลี กล่าว
“เราอยากให้เด็ก ๆ ไปเรียนที่โรงเรียน และเราต้องการให้พวกเขากลับไปโรงเรียนได้ตั้งแต่วันแรก”
โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าว กรณีที่รัฐบาลสหพันธรัฐกักตุนชุดตรวจแอนติเจนแบบทราบผลเร็ว (RAT) โดยระบุว่าคำกล่าวอ้างของซัพพลายเออร์ชุดตรวจที่ระบุว่า รัฐบาลได้นำสต๊อกของพวกเขาไปจากการวางจำหน่ายในช่องทางการค้านั้น ”ไม่เป็นความจริง”
“คุณอาจทราบถึงการกล่าวอ้างผิด ๆ เกี่ยวกับการที่รัฐบาลเครือจักรภพเรียกคืนชุดตรวจแอนติเจน ผมต้องการย้ำว่านั่นเป็นการกล่าวอ้างเท็จ” นายมอร์ริสัน กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
ต่อมา นายมอร์ริสันได้อ่านแถลงการณ์จากหน่วยงานสาธารณสุขออสเตรเลีย โดยระบุว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวได้รับการรายงานไปยังหน่วยงานเฝ้าระวังการคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว
โดยแถลงการณ์ของหน่วยงานสาธารณสุขระบุว่า ชุดตรวจเหล่านั้นไม่ได้ถูกเปลี่ยนเส้นทางขนส่งไปยังรัฐบาลเครือจักรภพ ขณะที่ทางหน่วยงานไม่เคยวางตนให้อยู่เหนือตลาดการค้าและผู้ค้าปลีกรายอื่น ๆ
“หากซัพพลายเออร์บอกคุณว่า คุณซื้อชุดตรวจไม่ได้เพราะรัฐบาลเครือจักรภพเปลี่ยนเส้นทางส่งชุดตรวจ นั่นไม่เป็นความจริง บอกให้พวกเขาพูดความจริงเสีย” นายมอร์ริสัน กล่าว
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยังได้ปฏิเสธแนวคิดชักจูงเด็กอายุ 16 ปี ให้ไปขอใบอนุญาตขับขี่สำหรับรถฟอคลิฟท์ เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนแรงงานของประเทศ รวมถึงปัญหาในห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น
“ผมได้รับข้อเสนอด้านอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งมาจากการหารือวงในของภาคอุตสาหกรรมคมนาคมขนส่ง และการหารือกับคณะผู้นำรัฐและมณฑลในวันนี้ เราได้ตกลงแล้วว่าจะไม่ดำเนินการใด ๆ ในเรื่องการให้เด็กอายุ 16 ปีขับรถโฟล์คลิฟท์” นายมอร์ริสัน กล่าว
“ในวันนี้เราได้หารือกันในเรื่องนี้อย่างดี โดยรวม ๆ แล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่เราเชื่อว่าควรที่จะเร่งรัดในเวลานี้” นายมอร์ริสัน กล่าว
ติดต่อสอบถามบริการสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ออสเตรเลียอนุมัติใช้ 2 ยาต้านโควิดชนิดรับประทาน
