รายการวิทยุ เอสบีเอส ไทย ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
กลุ่มผู้จัดงาน สกัลป์เชอร์บายเดอะซี บริเวณชายหาดบอนไดซึ่งมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ กำลังหาสถานที่จัดงานแห่งใหม่ หลังกล่าวหาสภาเทศบาลเวเวอร์ลีย์ว่า “บั่นทอน” นิทรรศการดังกล่าวด้วยทางเท้าใหม่
ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ นายเดวิด แฮนด์ลีย์ เจ้าของงานซึ่งเป็นที่สนใจของผู้เยี่ยมชมประมาณ 450,000 คนต่อปีกล่าวว่า ทางเท้าคองกรีตซึ่งมีความยาว 279 เมตร และกว้าง 1.8 เมตร จะเป็นอุปสรรคต่องานดังกล่าวซึ่งจะจัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ และจะทำให้จำนวนของชิ้นงานที่ตั้งได้นั้นลดน้อยลง
ขณะนี้กำลังมีการสร้างทางเท้าดังกล่าวขึ้นที่บริเวณสันเนินของสวนสาธารณะมาร์กส์ จากหาดบอนไดถึงหาดทามารามา ซึ่ง(ตามปกติ)จะมีรูปปั้นตั้งเด่นอยู่ที่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงบริเวณดังกล่าวได้มากขึ้น
“การตัดสินใจของสภาเทศบาลเวเวอร์ลีย์นั้นทำลายงานสกัลป์เชอร์บายเดอะซีและทำลายบริเวณสวนสาธารณะมาร์กส์ ซึ่งเป็นหน้าต่างสู่โลกสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมงานศิลปะที่ตั้งอยู่หน้าฉากทิวทัศน์อันเป็นสัญลักษณ์จำนวนหลายแสนคนทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิ” นายนแฮนด์ลีย์กล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันนี้ (11 ก.ค.)
“เราแจ้งให้สภาเทศบาลทราบแล้วว่าครั้งนี้อาจเป็นนิทรรศการครั้งสุดท้าย”
“มันสายเกินไปแล้วที่จะยกเลิกงานปี 2019 อย่างไรก็ตาม จะมีรูปปั้นจำนวนเก้ารูปที่ไม่สามารถจัดแสดงได้ และอีก 12 รูปที่จะถูกบั่นทอนลงไปอย่างมาก”
“สวนสาธารณะมาร์กส์จะไม่เป็นฉากหลังอันบริสุทธิ์งดงามอีกต่อไปสำหรับการจัดนิทรรศการระดับนานาชาติ”งานวิจัยโดยบีไอเอสออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิคส์ (BIS Oxford Economics) ประเมิณว่างานดังกล่าวก่อให้เกิดการใช้สอยโดยตรงต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่จำนวน $11 ล้านดอลลาร์ ในขณะนี่ผู้เดินทางมาเยี่ยมเยือนนิทรรศการดังกล่าวโดยเฉพาะจากต่างรัฐและต่างประเทศนั้นก่อให้เกิดรายได้ $38.9 ล้านดอลลาร์ต่อเศรษฐกิจของรัฐนิวเซาท์เวลส์
สวนสาธารณะมาร์กส์ ระหว่างงานสกัลป์เชอร์บายเดอะซี ปี 2011 (Image: John Gilmore via Wikimedia Commons/CC BY 3.0) Source: Image: John Gilmore via Wikimedia Commons/CC BY 3.0
นายแฮดลีย์กล่าวว่า ศิลปินจำนวนมากได้สร้างงานศิลปะเสร็จเรียบร้อยแล้ว “และควักเงินของตัวเองเป็นจำนวนหลายแสนดอลลาร์” สำหรับนิทรรศการในปี 2019
และเช่นเดียวกัน กลุ่มผู้จัดงานก็ได้ใช้เวลากว่าแปดเดือนเพื่อเตรียมงานดังกล่าว โดยใช้กองทุนจากสปอนเซอร์ ผู้บริจาค และรัฐบาล ดังนั้นงานจะเดินหน้าต่อไป “แต่ว่ามันก็อาจเป็นจุดจบของสกัลป์เชอร์บายเดอะซีที่บอนได”
สมาชิกสภาเทศบาลเวเวอร์ลีย์ นางแซลลี เบตส์ กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟว่า สมาชิกสภาถูก “บิดเบือนให้เข้าผิด” หลังจากเจ้าหน้าที่ของสภาฯ กล่าวว่ากลุ่มผู้จัดงานนั้นรู้สึกพอใจกับการออกแบบทางเท้าแบบใหม่
เรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะจาก เอสบีเอส ไทย
ศิลปินไทยร่วมงานศิลป์ APT9
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
สุนัขอเมริกันสแตฟฟอร์ดเชอร์ “คลั่ง” กัดพ่อเจ้าของดับและแม่สาหัสที่เมลเบิร์น