นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน กำลังพิจารณาแผนส่งเสริมให้นักเรียนต่างชาติย้ายไปเรียนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ในส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย ซึ่งอาจช่วยบรรเทาการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรในนครซิดนีย์และเมลเบิร์นได้
“ในพื้นที่ทางเหนือ พวกเขาต้องการประชากรเพิ่มขึ้น ในอะดิเลด พวกเขาต้องการประชากรมากขึ้น” นายมอร์ริสัน กล่าว
“แต่ผมบอกคุณได้เลยว่าในพื้นที่ชานเมืองรอบนอกของซิดนีย์และเมลเบิร์น พวกเขาไม่ต้องการเช่นนั้น ดังนั้น มันจึงเกี่ยวกับการบริหารจัดการประชากรอย่างไร และมีหลายวิธีโยกย้ายหลายอย่างที่เราสามารถทำเช่นนั้นได้” นายกรัฐมนตรี ระบุจากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย มีนักเรียนต่างชาติกว่า 786,000 คนที่ลงทะเบียนเรียนในออสเตรเลียในปี ค.ศ.2017 แต่มีไม่ถึงร้อยละ 4 ที่เรียนอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย
There were more than 786,000 international student enrolments last year but just over 3 percent were in regional areas according to the ABS Source: SBS News
ด้านสถาบันการศึกษาในส่วนภูมิภาคต่างยินดีกับแนวคิดของรัฐบาล เรื่องความพยายามให้มหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคมีความน่าดึงดูดนักเรียนต่างชาติมากขึ้น
"นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์มากกว่าเยอะกับคนในชุมชนที่นี่ (พื้นที่อาร์มิเดล) ดังนั้น พวกเขาจึงได้มีประสบการณ์การอยู่ในออสเตรเลียอย่างแท้จริงมากกว่า” นางแอนนาเบล ดันแคน รองอธิการบดี มหาวิทยาลัย นิว อิงแลนด์ บอกกับเอสบีเอส นิวส์
“ภาษาที่ใช้ร่วมกันในหมู่นักเรียนนานาชาติทั้งหมดและนักเรียนท้องถิ่นคือภาษาอังกฤษ ดังนั้น พวกเขาจึงได้ฝึกภาษาอังกฤษมากกว่า” นางดันแคน เสริม
แต่องค์กรกลางที่เป็นตัวแทนนักเรียนนานาชาติกังวลว่า นักเรียนต่างชาติอาจไม่ได้รับบริการอำนวยความสะดวกและบริการสนับสนุนที่จำเป็น ที่จะทำให้การย้ายไปศึกษาในพื้นที่ส่วนภูมิภาคเป็นทางเลือกที่น่าเย้ายวนใจ และแผนการดังกล่าวของรัฐบาลอาจก่อให้เกิดผลเสียแก่นักเรียนต่างชาติ
"สถาบันต่างๆ ในส่วนภูมิภาคอาจไม่มีหลักสูตรทั้งหมด ที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ในเมืองใหญ่มี" นายบีเจย์ แซพโกตา ประธานสภานักเรียนนานาชาติแห่งออสเตรเลีย แสดงความเห็น กับเอสบีเอส นิวส์
“อาจมีโอกาสน้อยกว่าสำหรับการเรียนที่บูรณาการด้านการทำงานเข้าไปด้วย เพราะบริษัทใหญ่ๆ มักตั้งอยู่ในเมืองใหญ่มากกว่าที่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค”
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
นักเรียนไทย "แฉ" พฤติกรรมเอเจนต์