นักวิเคราห์จำนวนหนึ่งกล่าวว่า นายมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ได้เคยสัญญามาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว ว่าจะทำให้บริการดังกล่าวโปร่งใสขึ้น (ภาพโดย AFP-SBS) Source: ภาพโดย AFP-SBS
“เรากำลังเพิ่มก้าวต่อๆ ไป ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อให้ผู้คนสามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้มากขึ้น”
ระบบการใช้งานใหม่นี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง หลังจากที่มีการเปิดเผยว่า ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายล้านคน ถูกนำไปใช้โดยบริษัทหนึ่งในประเทศอังกฤษซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมพ์ ในปี ค.ศ. 2016 แต่ทางเฟซบุ๊กกล่าวอ้างว่า ได้เตรียมความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ “มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว”
แต่นักวิเคราห์จำนวนหนึ่งกล่าวว่า นายมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้บริหารสูงสุดของเฟซบุ๊ก ได้เคยสัญญามาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว ว่าจะทำให้บริการดังกล่าวโปร่งใสขึ้น
“นายซัค[เกอร์เบิร์ก] สัญญาว่าจะมีการควบคุม ความเป็นส่วนตัวที่ง่าย และดีขึ้น ‘ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้’ เมื่อแปดปีที่แล้ว” นาย เซย์เนป ทูเฟคชี ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย นอร์ธ แคโรไลนา ท่านหนึ่งซึ่งศึกษาเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย กล่าวทางทวิตเตอร์
ด้านศาสตราจารย์ เจนนิเฟอร์ กรีเจิล จากมหาวิทยาลัยการสื่อสารซีราคยูส กล่าวว่า อุปกรณ์และการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใหม่นั้น “ชัดเจนว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้ใช้ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า หน้าจอแบบเดิมนั้นไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นการจงใจออกแบบ”
กรณีที่มีข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลนี้ ทำให้นิตยสาร เพลย์บอย ยกเลิกการใช้บัญชีเฟซบุ๊ก และยังส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ มากมาย ทั้งใน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และ สหภาพยุโรป เริ่มดำเนินการสืบสวนเพื่อหาความผิดในครั้งนี้ และยังทำให้ราคาหุ้นของเฟซบุ๊ก ตกต่ำลงมากกว่า 15% ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดลดลงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ