โรคปลอดประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis - MS) ถูกตรวจพบมากขึ้นในออสเตรเลีย โดยในทุก ๆ สัปดาห์ มีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและพบโรคนี้มากกว่า 10 คน
การประมาณตัวเลขที่เผยแพร่โดยหน่วยวิจัยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งออสเตรเลีย (MS Research Australia) แสดงให้เห็นว่า มีชาวออสเตรเลียที่มีภาวะอักเสบของระบบประสาท 25,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 4,000 คนในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
“ในขณะที่โรคนี้เกิดอาจจะเกิดขึ้นโดยยีนส์ของแต่ละคน แต่พันธุกรรมก็ยังไม่สามารถอธิบายถึงการเพิ่มขึ้นของโรคนี้ได้ จะต้องมีเรื่องของสภาพแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง และเราก็ยังรู้ว่า การเพิ่มขึ้นของโรคนี้ไม่ได้เป็นเพราะการตรวจที่ดีขึ้น” นายแพทย์แมทธิว ไมล์ส (Dr Matthew Miles) ประธานกรรมการบริหาร หน่วยวิจัยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งออสเตรเลีย ระบุ
ภาระที่กลุ่มของผู้ป่วยโรคนี้ต้องเผชิญ คือความสามารถในการใช้ชีวิตที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในระบบสุขภาพถึง 1,900 ล้านดอลลาห์ออสเตรเลีย จากการคำนวณของนักวิจัยที่สถาบันวิจัยการแพทย์เมนซียส์ (Menzies Institute of Medical Research) ในรัฐแทสเมเนีย
อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้อยู่ที่ 30 ปี โดย 3 ใน 4 เป็นผู้หญิง
เนื่องจากภาระทางการเงิน และปัญหาส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวออสเตรเลียครึ่งหนึ่งไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุของโรคนี้
ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีส่วนทำให้ป่วยเป็นโรคนี้ที่พบอยู่แล้ว คือ การขาดวิตามิน D การสูบบุหรี่ และอาการไข้หวัดที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตอันเกิดจากไวรัสเอปสไตน์ บารร์ (Epstein-Barr Virus - EBV)
อีกปัจจัยที่นักวิจัยกำลังให้ความสนใจ คือ พฤติกรรมการกิน และรูปแบบการใช้ชีวิต ที่เป็นปัจจัยในขั้นตอนการรักษาและป้องกันโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
“มันเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ แต่นี่คือสิ่งสำคัญ แรงผลักดัน และเป็นความคืบหน้าของการศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้” นายแพทย์ไมล์ส ระบุ
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เงินซูเปอร์ชี้อนาคตหลังเกษียณ