เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 76 ปี ซึ่งล้มลงหมดสติขณะกำลังปีนภูเขาหินอูลูรูเมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (3 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เขาถูกนำตัวส่งไปรักษาทางเครื่องบินที่คลินิกยูราลา (Yurala) แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
มีผู้เสียชีวิต 37 คนตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกสถิติในช่วงปี 1950 โดนส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการพลัดตกลงมา อากาศที่ร้อน และอาการขาดน้ำ
อานางู (Anangu) ชนพื้นเมืองดั้งเดิมได้ร้องขอให้ผู้เยี่ยมชมหยุดปีนภูเขาหิน ในอุทยานแห่งชาติอูลูรู คาตา จูตา (Uluru Kata-Tjuta) ตั้งแต่ได้รับโฉนดที่ดินเมื่อปี 1985
บริเวณด้านล่างของภูเขาหิน มีป้ายเขียนไว้เป็นภาษาต่างๆ รวมถึงภาษาญี่ปุ่น เพื่อขอให้ผู้ที่จะปีนป่ายทบทวนเจตนาของตนเองอีกครั้ง
ทั้งนี้ ชนพื้นเมืองดั้งเดิมรู้สึกว่า การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของใครก็ตามในอุทยานแห่งชาตินี้ เป็นเรื่องที่พวกเขาเศร้าใจอย่างมาก และเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมา ชนพื้นเมืองดั้งเดิมบางคนถึงกับเดินทางไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตด้วย
โฆษกพาร์กส์ ออสเตรเลีย (Parks Australia) ระบุว่า พวกเขา "รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก" จากเหตุการณ์และการไม่เคารพสถานที่ดังกล่าว โดยจะมีการปิดภูเขาหินอูลูรูไปจนถึงวันที่ 4 กรกฎาคมนี้
เมื่อปีก่อน ชาวอานางูได้ประกาศว่า บริเวณที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแห่งนี้ จะปิดไม่ให้มีการเยี่ยมชมตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2019 เป็นต้นไป
Please do not climb Uluru sign Source: Blogspot / Of Cockatoos and Kangaroos
กรุณาอย่าปีนป่าย
อุทยานแห่งชาติอูลูรู คาตา จูตา ได้ขอให้ผู้เยี่ยมชมหลีกเลี่ยงการปีนป่ายภูเขาหินที่ตั้งตระหง่านนี้ ด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม
"เรารู้สึกเศร้าใจอย่างมากเมื่อมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบนแผ่นดินของเรา เราต้องการให้ผู้คนรู้ถึงเหตุผลว่าทำไมเราจึงขอไม่ให้คุณปีนป่าย แต่ถ้าคุณจะปีน เราขอให้คุณกระทำอย่างปลอดภัย" ชาวอานางู ชนพื้นเมืองดั้งเดิมระบุ
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อะไรทำให้เป็น 'ชาวออสเตรเลียที่แท้จริง'