นายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองได้ประกาศว่า เขาจะยังคงทำงานโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักเรียนต่างชาติ ลูกจ้างที่มีทักษะ และการเพิ่มอัตรารับผู้อพยพย้ายถิ่นเข้าสู่พื้นที่ชนบทในออสเตรเลีย ภายใต้การทำงานของคณะรัฐบาล นายสก็อตต์ มอร์ริสัน
นายโคลแมน กล่าวเป็นครั้งแรก เมื่อเย็นวานนี้ (13 ส.ค.) ที่สถาบันซิดนีย์ (Sydney Institute) โดยกระบุว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นเป็น “ส่วนสำคัญ” สำหรับความสำเร็จในระดับชาติของออสเตรเลีย แต่ทั้งนี้ การทำงานจะต้องเป็นไป “โดยกระจ่าง”
เพื่อเป็นการให้ (ออสเตรเลีย) ได้รับผลตอบแทนจากการรับเข้าผู้อพยพย้ายถิ่น รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า จะเล็งไปที่นัศึกษาต่างชาติ และผู้อพยพทักษะ ในขณะเดียวกันก็จะจูงใจให้ผู้ที่ย้ายมาจากต่างประเทศอาศัยและทำงานในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลีย“มันเป็นการยืนในหลักการและเหตุผลที่ว่า ยิ่งผู้อพยพมีทักษะมากเท่าไหร่ยิ่งดี” นายโคลแมนกล่าว
Immigration Minister David Coleman during a speech in Sydney on Tuesday. Source: SBS News
“เมื่อคุณมองลึกลงไปในความแปรผันของเศรษฐกิจ ผลิตผลคือสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ เมื่อคุณได้รับผลตอบแทนมากจากสิ่งที่ป้อนเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม คุณจะสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งนำไปสู่มาตรฐานคุณภาพชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน” นายโคลแมนกล่าว
นายโคลแมนกล่าวว่า การศึกษาระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่ “ดีอย่างยิ่งสำหรับออสเตรเลีย” และยังคงเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายรับผู้อพยพย้ายถิ่นของรัฐบาลนักศึกษาที่เดินทางมาศึกษาในออสเตรเลีย สร้างมูลค่าการส่งออกให้ประเทศเป็นมูลค่าราว $35,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ามูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์อย่างข้าวสาลีที่ $4 พันล้านดอลลาร์ และเนื้อวัวที่ $8,500 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญของการอพยพย้ายถิ่นชั่วคราวของออสเตรเลีย
นายเดวิด โคลแมน รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง (ซ้าย) และนายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี (ขวา) Source: AAP
“ภาคการศึกษาจะสนับสนุนผู้มีทักษะสูง ตำแหน่งงานที่มีค่าจ้างสูง ซึ่งเป็นลักษณะของตำแหน่งงานที่เราต้องการพัฒนา” นายโคลแมนกล่าว
เพื่อเป็นการชักจูงให้นักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาที่สถาบันในพื้นที่ชนบท จะมีการต่อเวลาวีซ่าให้ 1 ปี สำหรับนักศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัยที่เลือกไปทำงานหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท
มากไปกว่านั้น จะมีการจัดสรรตำแหน่งวีซ่า 23,000 ตำแหน่ง สำหรับวีซ่าอพยพย้ายถิ่นในพื้นที่ชนบทแบบใหม่ 2 ชนิด ซึ่งผู้ยื่นขอวีซ่าจำเป็นที่จะต้องมาอยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่ชนบทเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติสถานะประชากรถาวร
เมื่อมีการตั้งคำถามถึงขั้นตอนที่รัฐบาลจะทำให้มั่นใจว่า ผู้อพยพยย้ายถิ่นในพื้นที่ชนบนจะอยู่อาศัยในพื้นที่ หลังจากย้ายมายังออสเตรเลีย นายโคลแมลเชื่อว่า ความต้องการสถานะการเป็นประชากรถาวร ซึ่งผู้อพยพย้ายถิ่นจะได้รับหากอยู่ในพื้นที่ครบ 3 ปี จะเป็นแรงผลักดันที่เพียงพอสำหรับเรื่องนี้
“เราทุกคนมั่นใจอย่างยิ่งว่า จะมีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามขอตกลงในระดับสูง” นายโคลแมนกล่าว
ทั้งนี้ พื้นที่ชนบทของออสเตรเลียนั้น หมายรวมถึง พื้นที่ใดก็ตามที่อยู่นอกเขตนครซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน เพิร์ธ และเมืองโกลด์ โคสต์
ส่วนในประเด็นของวีซ่าด้านมนุษยธรรมต่างๆ นายโคลแมนได้อธิบายถึงผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาถึงออสเตรเลียทางเรือ ระหว่างปี 2007 - 2013 ว่า เป็น “ภัยพิบัติแห่งมนุษยธรรม นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะเพิ่มโครงการอพยพย้ายถิ่น สำหรับผู้หญิงที่ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่หลบหนีอาชญากรรมที่มีพื้นฐานทางเพศได้เข้ามายังที่ปลอดภัยในออสเตรเลีย โดยโครงการดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 20 จากโครงการด้านการรับเข้าทางมนุษยธรรมทั้งหมด
เมื่อเร็วๆ นี้ เอสบีเอส นิวส์ ได้รายงานว่ารัฐบาลมีความต้องการที่จะส่งเจ้าหน้าที่รับคนเข้าทำงานในออสเตรเลียไปตามประเทศต่างๆ เพื่อเฟ้นหาบุคคลแถวหน้าในตลาดแรงงานสาขาอาชีพต่างๆ จำนวน 5,000 คน ให้เข้ามาทำงานในออสเตรเลีย
“การรับเข้าทำงานโดยตรงจากต่างประเทศนี้ เป็นเรื่องใหม่ในโครงการรับผู้อพยพย้ายถิ่นของเรา โดยโครงการนี้มีเป้าหมายที่มุ่งรับแรรงานทักษะระดับสูงจำนวน 5,000 คน ในทุกๆ ปี ให้เข้ามาทำงานในออสเตรเลีย” นายโคลแมนกล่าว
ภายใต้โครงการเฟ้นหาผู้มีพรสวรรค์อิสระจากทั่วโลก (Global Talent Independent Program) ที่เปิดตัวในปีนี้ เจ้าหน้าที่รับคนเข้าทำงานจากมหาดไทยออสเตรเลีย ถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ อย่างเยอรมนี สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน และนครดูไบ
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
หางานอย่างไรให้ได้งาน