แอน โกลับ (Ann Golub) คุณแม่เลี้ยงลูกเดี่ยวอายุ 47 ปี อาศัยกับลูกสาวของเธอที่ห้องพักของรัฐบาลในนครซิดนีย์เป็นเวลากว่า 5 ปี เธอบอกว่า ความฝันที่จะมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเองนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม
“ธนาคารคงจะหัวเราะใส่ฉัน ไม่มีใครที่ไหนเขาจะให้คนอย่างฉันกู้เงิน ฉันมีบ้านเป็นของตัวเองไม่ได้ และนั่นเป็นสิ่งจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับฉัน” เธอเล่า
นางโกลับเล่าอีกว่า นั่นเป็นเพราะเธอไม่สามารถหางานเต็มเวลาได้ แม้จะจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัย งานที่เธอทำได้นั้นเป็นเพียงแค่ครูสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง (ESL Teacher) ซึ่งเป็นงานพาทไทม์
“มันไม่ใช่งานที่มั่นคง มันเป้นแค่งานแคชวล และมันก็ไม่ได้เป็นตำแหน่งงานที่ถาวร ในวงการที่ฉันทำงานไม่มีใครได้รับตำแหน่งงานประจำ” เธอเล่า
ในแต่ละช่วงอายุที่ผ่านมา จำนวนชาวออสเตรเลียที่มีที่พักอาศัยของตัวเองนั้นลดน้อยลง จากข้อมูลโดยสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลีย (Australian Institute of Health and Welfare) พบว่า แม้อัตราจ้างงานจะเพิ่มสูงขึ้น แต่อัตราการว่างงานแฝงนั้นกลับอยู่ในระดับสูงเช่นกัน
รายงานฉบับใหม่นี้อธิบายว่า ชาวออสเตรเลียร้อยละ 74 มีงานทำในช่วงสิ้นปี 2018 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา แต่จำนวนผู้ว่างงานนั้นกลับอยู่ในระดับสูง โดยชาวออสเตรเลีย 1 ใน 11 ไม่สามารถหาชั่วโมงทำงานที่ต้องการได้
นายเชน โอลิเวอร์ (Shane Oliver) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเอเอ็มพี แคปิตอล กล่าวว่า ปัญหานี้จะยังไม่หมดไป จนกว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียนั้นจะดีขึ้นกว่านี้
“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นอัตราเติมโตของตำแหน่งงานในระดับที่ดี แต่ปัญหาก็คือ มันไม่มีงานมากนักที่ชาวออสเตรเลียต้องการ งานเหล่านั้นเป็นงานพาร์ทไทม์ ไม่ใช่งานเต็มเวลา อัตราว่างงานจะยังคงสูงต่อไป จนกว่าเราจะสามารถปรับปรุงสภาพเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นกว่าเมื่อช่วง 5 ปีที่ผ่านมา” นายโอลิเวอร์กล่าว
ในขณะเดียวกัน ปัจจัยดังกล่าวยังสอดคล้องกับความตึงเครียดในครัวเรือนที่มีรายได้น้อยในเรื่องที่พักอาศัย
“มีคนหนุ่มสาวจำนวนน้อยที่มีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง ผู้คนใช้รายได้ของตนเองไปกับเรื่องที่พักอาศัยมากขึ้น รายงานของเราแสดงให้เห็นว่า ครอบครัวรายได้น้อยราว 1 ล้านครอบครัว จ่ายเงินกู้เพื่อเช่าที่พักอาศัยคิดเป็นร้อยละ 30 จากรายได้ทั้งหมด” นายดิเนช อินดราฮารัน (Dinesh Indraharan) จากสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลียกล่าว
นอกจากนี้ ชาวออสเตรเลีย 1 ใน 4 ยังเผชิญกับปัญหาความเปลี่ยวเหงา ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวนั้นได้รับผลกระทบมากกว่าช่วงอายุอื่นๆ
แอน รัสตัน (Anne Ruston) รัฐมนตรีด้านครอบครัวและบริการสังคมกล่าวว่า รัฐบาลรู้ดีว่า จะต้องทำอะไรให้มากขึ้นเพื่อช่วยผู้ที่ประสบปัญหา
“เรายังต้องตระหนักว่า มีบางเรื่องที่ได้รับการเน้นให้เด่นชัด ซึ่งมีหลายอย่างที่ต้องทำในส่วมนั้น และดิฉันขอทำให้คุณมั่นใจว่า คณะรัฐบาลที่ดิฉันได้เป็นส่วนหนึ่งนั้นมีความทุ่มเทที่จะจัดการในส่วนนี้” นางรัสตันกล่าว
ภาพรวมในระดับประเทศยังพบว่า ชนพื้นเมืองในออสเตรเลียเป็นเจ้าของที่พักอาศัยมากขึ้นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ปัญหาความแออัดในที่พักอาศัยลดลง และจำนวนชนพื้นเมืองของออสเตรเลียที่พึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้นลดลงเช่นกัน
นายเอียน แฮมม์ (Ian Hamm) ประธานมูลนิธีเฟิร์สท์ เนชันส์ (First Nations Foundation) กล่าวว่า แม้เรื่องนี้จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังมีช่องว่างระหว่างชาวออสเตรเลีย และชนพื้นเมืองของออสเตรเลีย
“แม้จะมีสัญญาณที่เป็นบวกในส่วนนี้ แต่ยังมีเรื่องที่เราต้องทำอีกมาก เพื่อให้ชาวออสเตรเลียที่ไม่ใช่ชนพื้นเมืองนั้นมีความอยู่ดีกินดีในทางเศรษฐกิจ” นายแฮมม์กล่าว
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสหพันธรัฐใช้งบประมาณมากกว่า $160 ล้านดอลลาร์ ในส่วนของเงินสวัสดิการของรัฐ แต่จำนวนผู้ที่รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลนั้นลดลงไปอย่าเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
ที่พักสำหรับผู้ไร้บ้านในซิดนีย์เข้าขั้น ‘วิกฤติ’