ประเด็นสำคัญ
- นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อาจมีการตกงานเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ย.ประมาณ 1.2 แสนตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขตกงานเดือน ส.ค.ร่วงหนักกว่า 1.4 แสน
- อัตราคนว่างงานเดือนก่อนอาจอยู่ที่ 4.8% แต่หากสถานการณ์ไม่สู้ดีเป็นไปได้ว่าจะเพิ่มสูงถึง 5.4%
- ดัชนีความเชื่อมั่นเมื่อต้นเดือน ต.ค.สูงสุดในรอบเดือนกว่า แต่ก็ยังค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ส่วนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจยังอยู่แดนลบ แต่อาจมีความหวังหลังสัญญาณลงทุนกระเตื้องเล็กน้อย
การผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ของออสเตรเลียสัปดาห์นี้ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการ และประชาชนที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อย่างยาวนาน โดยเฉพาะการจ้างงาน การลงทุน และการผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียดทางเศรษฐกิจในส่วนของธุรกิจและผู้บริโภค
แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลอีกด้านที่ชี้ให้เห็นถึงความจริงที่น่าวิตก ของการเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และมณฑลนครหลวงออสเตรเลีย หลังสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย เปิดเผยรายงานด้านกำลังคนทำงานในประเทศ สำหรับเดือนกันยายน 2021 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการตกงานเกิดขึ้นอีก 120,000 ตำแหน่ง ในเดือนกันยายน หลังพบจำนวนคนตกงานมากถึง 143,600 ตำแหน่ง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยระยะตัวเลขคาดการณ์จำนวนคนตกงานอยู่ที่ระหว่าง 25,000 จนถึง 225,000 ตำแหน่ง
แต่ในทางกลับกัน อัตราการว่างงานในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมากลับลดต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี อยู่ที่ร้อยละ 4.5 แต่สิ่งนี้เป็นผลจากการที่ผู้คนล้มเลิกความตั้งใจที่จะหางานทำในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่วนในเดือนกันยายน นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อัตราว่างงานอาจเพิ่มสูงถึงร้อยละ 4.8 แต่อย่างไรก็ตาม ระยะตัวเลขคาดการณ์อาจอยู่ระหว่างอัตราคงที่เหมือนเดือนก่อนที่ร้อยละ 4.5 ไปจนถึงจุดสูงสุดที่ร้อยละ 5.4
ทั้งนี้ ตัวบ่งชี้ด้านการจ้างงานในอนาคต เช่น การประกาศรับสมัครงาน ได้ชี้ให้เห็นว่า อัตราการว่างงานอาจเพิ่มสูงสุดถึงร้อยละ 5 ในอีกหลายเดือนที่จะมาถึง
แต่ นายฟิลลิป โลว (Philip Lowe) ผู้ว่าการธนาคารสำรองแห่งออสเตรเลีย (RBA) เชื่อว่า ตัวชี้วัดชั่วโมงการทำงานของสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย จะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดถึงสภาวการณ์ในตลาดแรงงานขณะนี้ ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ร่วงหล่นลงไปถึง 66 ล้านชั่วโมง หรือคิดเป็นร้อยละ 3.7
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครายสัปดาห์ของธนาคารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และ รอย มอร์แกน (ANZ-Roy Morgan Consumer Confidence Index) เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาคการใช้จ่ายของครัวเรือนในอนาคต ได้เพี่มขึ้นถึงจุดสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีความหวังว่ามาตรการล็อกดาวน์จะผ่อนคลายในเวลานั้น แต่ก็ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว
ส่วนอัตราความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นแนวทางในการจ้างงานและการลงทุนในอนาคตนั้นยังคงอยู่ในแดนลบ แต่การฟื้นตัวในภาคการลงทุนกำให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีในอนาคตอันใกล้