มีผู้ใช้บริการของอุทยานแห่งชาติในรัฐวิกตอเรีย เพียง 1 ใน 4 คนเท่านั้น ที่รู้ว่า ควรใช้น้ำดับกองไฟที่ก่อขึ้นระหว่างการตั้งค่ายพักแรม ซึ่งความไม่รู้ของประชาชนในเรื่องนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้น
พาร์กส์ วิกเตอเรีย (Parks Victoria) ได้ทำการสำรวจโดยถามประชาชนรัฐวิกตอเรียจำนวน 1,000 คน ว่าควรดับกองไฟด้วยน้ำ หรือควรดับด้วยการใช้ดินหรือทรายกลบ และพบว่าร้อยละ 74 เลือกการใช้ดินหรือทรายกลบกองไฟ ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้อง
"เมื่อคุณก่อกองไฟขึ้นในการตั้งค่ายพักแรม คุณมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องทำให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัย ไฟไม่เล็ดรอดไปไหน และดับไฟสนิทแล้ว ก่อนที่คุณจะจากไป" นายเดวิด นูเจนต์ ผู้อำนวยการบริการดับเพลิงและสถานการณ์ฉุกเฉิน ของรัฐ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (21 ม.ค.)
กองไฟที่ก่อขึ้นควรถูกดับไฟให้มอดสนิทจนสามารถใช้มือจับบริเวณที่ก่อไฟได้โดยไม่มีความร้อนสะสมอยู่ ก่อนที่ผู้ก่อไฟจะจากไปจากบริเวณนั้นได้
ทางการของรัฐวิกตอเรีย เผยว่า เหตุการณ์ไฟป่าร้อยละ 10 ในรัฐวิกตอเรียเกิดจากความประมาทเลินเล่อในการก่อกองไฟเพื่อตั้งค่ายพักแรม
"สิ่งที่ค้นพบจากการสำรวจเหล่านี้น่าวิตก โดยเฉพาะเมื่อเรามีประชาชนจำนวนมาก ที่ไปเที่ยวตั้งค่ายพักแรมในรัฐวิกตอเรียในฤดูร้อน" นายนูเจนต์ ระบุ
ขณะที่อุณหภูมิในรัฐวิกตอเรียจะสูงขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ดูแลอุทยานแห่งชาติของรัฐ กำลังพุ่งเป้าไปที่การดูแลพื้นที่ตั้งค่ายพักแรมต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของประชาชน โดยจะเตือนให้ผู้ไปใช้บริการค่ายพักแรมได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบของตน
การสำรวจยังพบด้วยว่า มีผู้ใช้บริการอุทยานแห่งชาติราวครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่รู้ว่า ที่ไหนและเมื่อไรที่พวกเขาสามารถก่อกองไฟได้ ในบริเวณค่ายพักแรม ซึ่งนั่นก็คือ ที่เตาก่อไฟในบริเวณที่อุทยานกำหนดไว้เท่านั้น และไม่สามารถก่อไฟได้ในวันที่มีประกาศห้ามจุดไฟในที่โล่งอย่างสิ้นเชิง (Total Fire Ban)
ทั้งนี้ พาร์กส์ วิกเตอเรีย (Parks Victoria) ดูแลร้อยละ 18 ของพื้นที่ในรัฐวิกตอเรียทั้งหมด
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
พายุไฟ: ร่างอวตารที่ร้ายกาจที่สุดของไฟป่า
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.