ตั้งแต่ 9 เม.ย. เป็นต้นไป เฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ จะเริ่มทยอยแจ้งเตือนผู้ใช้กว่า 87 ล้านคนทั่วโลก ที่อาจถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้อย่างไม่เหมาะสมโดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองสัญชาติอังกฤษ เคมบริดจ์ อนาลิติกา (Cambridge Analytica) สำหรับในออสเตรเลีย มีผู้ใช้งานที่เข้าข่ายประมาณ 310,000 คน ที่จะได้รับการแจ้งเตือนนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ใช้งานที่เหลือกว่า 2,200 ล้านคน จะได้รับข้อความให้ตรวจสอบเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในออสเตรเลีย 1 ใน 50 คน จะได้รับผลกระทบจากเหตุข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล ส่วนในสหรัฐ ฯ มีความเป็นไปได้ถึง 1 ใน 3 คน
คณะกรรมาธิการความเป็นส่วนตัวกำลังตรวจสอบว่า เฟซบุ๊กได้ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ว่า จะต้องมีขั้นตอนที่สมเหตุสมผลในการเก็บรักษาข้อมูลผู้ใช้งานอย่างปลอดภัย
เฟซบุ๊กสูญเสียมูลค่าตามราคาตลาดหลักทรัพย์ไปกว่า 1 แสนล้านดอลลาห์ หลังข่าวอื้อฉาวกรณีเคมบริดจ์ อนาลิติกาแพร่ออกไปตั้งแต่เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังได้ปิดบริษัท อะกริเกทไอคิว (AggregateIQ) หน่วยงานให้คำปรึกษาทางการเมืองสัญชาติแคนาดาในเครือเฟซบุ๊ก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่ามีความเกี่ยวพันกับเคมบริดจ์ อนาลิติกา และได้รับเงินมากกว่า 4.5 ล้านดอลลาห์ จากแคมเปญสนับสนุนสหราชอาณาจักรให้ลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ในการลงประชามติเบร็กซิต (Brexit) โดยบริษัทดังกล่าวระบุว่า ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทั้งเคมบริดจ์ อนาลิติกา และบริษัทสแตรตเตอร์จิก คอมมิวนิเคชัน แลบอราทอรีส์ (SCL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเคมบริดจ์ อนาลิติกา และไม่มีการทำสัญญาผูกมัดใด ๆ กับเคมบริดจ์ อนาลิติกาด้วยเช่นกัน
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คอมมอนเวลธ์เกมส์ เริ่มขึ้นแล้วในนครโกลด์โคสต์ ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเกือบ 90 ปี